วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และความทรงจำแห่ง"ศรีบูรพา"

วันที่ 09 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11382 มติชนรายวัน


ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และความทรงจำแห่ง"ศรีบูรพา"





ในวันนักเขียน 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เจ้าของรางวัลศรีบูรพาประจำปี พ.ศ.2552 ได้ปาฐกถาในหัวข้อ "ศรีบูรพา-ข้างหลังภาพ-มิตาเกะ-กับข้าพเจ้า"

โดยตอนหนึ่งเขาตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อวิเคราะห์ศรีบูรพา อากาศดำเกิง และดอกไม้สดแล้วนั้น สำหรับเยาวชนคนหนุ่มสาว อากาศดำเกิงกับดอกไม้สดอาจถูกหลงลืม แต่ศรีบูรพายังคงอยู่ ทั้งๆ ที่ทั้งสามต่างก็เป็นนักคิดนักเขียนใหญ่พอๆ กัน

เหตุน่าจะมาจากศรีบูรพาสามารถสะท้อนยุคสมัยของความเปลี่ยนแปลงหรือความขัดแย้งในสังคมได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็สร้างความบันดาลใจไปสู่สังคมใหม่ที่น่าจะดีกว่า

ศรีบูรพาให้ภาพสะท้อนอย่างโรแมนติคและงดงามใน "ข้างหลังภาพ" อย่างเจ็บปวดและมีความหวังอย่างใน "แลไปข้างหน้า" กับ "จนกว่าเราจะพบกันอีก" และศรีบูรพาเองก็ตกเป็นเหยื่อของอำมาตยาธิปไตยของฟาสซิสม์ ของเผด็จการทหาร ทั้งต้องติดคุก ทั้งต้องไปตายในเมืองจีน-เขาว่า

"ข้าพเจ้าไม่แน่ใจ ว่าตนเองจะคิดเลยเถิดไปถึงขนาดว่า สังคมไทยที่ศรีบูรพาพยายามสะท้อนออกมาให้เห็นและเข้าใจในขณะนั้น อาจจะไม่ต่างกับประโยคทองของ Gramsci นักปรัชญามาร์กซิสม์อิตาลี ที่กล่าวไว้ว่า The old world is dying away, and the new world struggles to come forth : now is the time of monsters. (โลกเก่ากำลังตายจากไป แต่โลกใหม่ยังต้องต่อสู้เพื่อให้เกิดขึ้นมาให้ได้-ณ เวลานี้แหละที่ปีศาจอสูรกายก็จะปรากฏขึ้น) แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อว่า นี่เป็นสาระสำคัญที่ทำให้ศรีบูรพาเป็นอมตะ"


หน้า 24
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01ent02090552&sectionid=0105&day=2009-05-09


Hotmail® has a new way to see what's up with your friends. Check it out.