วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

"ฮู"หวั่นหวัด 2009 หาก 2 ปีสกัดไม่อยู่ลาม 2 พันล้านคน

วันที่ 9 พฤษภาคม 2552 เวลา 08:39 น.
 
 
"ฮู"หวั่นหวัด 2009 หาก 2 ปีสกัดไม่อยู่ลาม 2 พันล้านคน
"นายกฯ" มั่นใจที่ประชุมรมว.สธ.อาเซียนบวก 3 ผนึกกำลังจัดการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อยู่หมัด ด้านที่ประชุม เห็นชอบข้อตกลงความร่วม 15 ข้อ รับมือการระบาด ขณะที่ "ฮู" เตือนหากไวรัสร้ายยังระบาดต่อเนื่องอีก 2 ปีมีหวังติดกันทั้งโลก 2 พันล้านคน ส่วนอาร์เจนตินา-บราซิล พบผู้ติดเชื้อรายล่าสุด ด้านนักวิทยาศาสตร์มะกันเผยข่าวดี พร้อมผลิตวัคซีนได้แล้วในอีก 2-3 เดือนนี้ ฮ่องกงเลิกกักตัวในโรงแรมแล้ว
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 พ.ค. ที่โรงแรมดุสิตธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณ สุขประเทศอาเซียน บวก 3 นัดพิเศษ ว่า ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาอาเซียนบวก 3 ได้ร่วมมือพัฒนาและประสานแผนความพร้อมรับมือ การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ของสมาชิกประเทศ และร่วมมือพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามแผน ได้มีการซ้อมแผนร่วมกันหลายครั้ง นับว่าเป็นผลของวิสัยทัศน์ร่วมกันอันกว้างไกล และเป็นฐานที่ดีสำหรับการรับมือกับปัญหาใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น ทั้งนี้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ความร่วมมือเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่เกิดขึ้น เช่น โรคซาร์ส และไข้หวัดนก ประสบความสำเร็จด้วยดี
 
นายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยกว่า 2,000 คนทั่วโลกจากประมาณ 23 ประเทศ นับตั้งแต่มีการระบาดไม่กี่สัปดาห์ในเม็กซิโก    แม้ว่าการดำเนินยุทธศาสตร์การป้องกันการแพร่ระบาดได้รับผลน่าพอใจ แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์ จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นและการแพร่กระจายที่กว้างขวางขึ้นยังคงน่าตกใจ ดังนั้นจึงต้องเตรียมพร้อมและรับมือกับปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียชีวิต โดยต้องมีความร่วมมือใหม่ ๆ เพื่อสร้างปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการป้องกันและแก้ปัญหาโรคนี้ เช่น การพัฒนาวัคซีน ยาต้านไวรัส และการขยายการแบ่งปันเวชภัณฑ์ในคลังสำรองของอาเซียนบวก 3 และของประเทศ เพื่อให้ประชากรเข้าถึงเครื่องมือที่สำคัญเหล่านี้ได้อย่างทั่วถึง เพียงพอ และทันเวลา
 
"จากพื้นฐานความร่วมมือที่เข้มแข็ง ซึ่งพิสูจน์ได้ด้วยความสำเร็จในอดีต และด้วยความตั้งใจรวมกันในปัจจุบัน ข้าพเจ้ามั่นใจว่า จะร่วมมือกันจัดการกับปัญหาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) ได้เป็นผลสำเร็จ ขอยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่จะดำเนินการตามพันธะแห่งข้อตกลงร่วมกันของ   อาเซียนบวก 3 ในการแก้ปัญหาที่สำคัญของภูมิภาคและของโลกในครั้งนี้"
ด้าน ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรี สาธารณสุขอาเซียนบวก 3 นัดพิเศษ เรื่องโรคไข้  หวัดใหญ่ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) ว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกถูกปลุกให้ตื่นด้วยเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดใหม่ที่สามารถปลิดชีวิตมนุษย์เป็นจำนวนมาก เป็นเครื่องเตือนความจำถึงประสบการณ์เกี่ยวกับอุบัติการณ์ของโรคซาร์สในปี 2546 ว่าพวกเราต้องระดมความสามัคคีในการร่วมเฝ้าระวังป้องกันภูมิภาคของเราจากการคุกคามของโรคอย่างต่อเนื่อง และขอบคุณประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่มาร่วมประชุมในช่วงที่เราต้องการความช่วยเหลือ ขอขอบคุณประเทศญี่ปุ่นที่ได้ให้สต๊อกยาต้านไวรัส 5 แสนชุด และอุปกรณ์ ป้องกันส่วนบุคคล 7.5 แสนชุด
 
"ผมขอเร่งเร้าให้ผู้นำประเทศของอาเซียนมอบทรัพยากรที่เพียงพอสำหรับกระทรวงสาธารณสุขของแต่ละประเทศในประเทศอาเซียนบวก 3 ในการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ (เอช 1 เอ็น 1) อย่างมีประสิทธิผล ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถให้การบริการต่อความจำเป็นของประชากรของเรา และขอเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ นอกอาเซียนให้แสดงความมุ่งมั่นและความผูกพันที่คล้ายคลึง   กันรับมือวิกฤติการณ์ครั้งนี้และการคุกคามต่อสาธารณสุขโดยทั่วไป ผมยังขอเรียกร้องให้ส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและกระทรวงร่วมมือเพื่อเพิ่มขยายการสื่อสารของความเสี่ยงภัยและการรณรงค์ให้สาธารณชนตระหนักถึงโรคนี้เพื่อชุมชนท้องถิ่นของเราจะมีความสามารถในการดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันทั้งส่วนบุคคลและสุขอนามัยของตนเอง"
 
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครั้งนี้มีการลงนามในข้อตกลงร่วมกัน 15 ข้อ คือ 1.แต่ละประเทศจะดำเนินตามแผนเตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง อย่างมีประสิทธิภาพ
2.จะส่งเสริมความเข้มแข็งของศักยภาพพื้นฐานเพื่อการดำเนินงาน ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (ค.ศ. 2005)
3.จะซ้อมแผนและแนวทางปฏิบัติเพื่อให้หน่วยงานในภาคส่วนต่าง ๆ มีความพร้อมที่จะสานความร่วมมือและสื่อสาร สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเพื่อป้องกันโรคโดยไม่ตระหนก
4.ประเทศที่มีพื้นที่การระบาดจะพิจารณาการตรวจคัดกรองผู้เดินทางก่อนการออกนอกประเทศ
5.จะพิจารณาระบบการส่งเวชภัณฑ์และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันจากระบบคลังสำรองยาที่จัดตั้งขึ้นในภูมิภาค
6.แต่ละประเทศจะประเมินและพยายามเพิ่มปริมาณยาต้านไวรัส เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อให้เพียงพอกับการรับมือการระบาด 
7.จะดำเนินการให้สอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกเพื่อป้องกันการระบาด โดยหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคและโลก
8.จะสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อการผลิตยาต้านไวรัสและวัคซีนป้องกันการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่
9.จะส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล สถานการณ์โลกให้เพียงพอและรวดเร็ว รวมทั้งการจัดให้มีช่องทางการติดต่อสายด่วนระหว่างผู้บริหารสาธารณสุขของประเทศ จัดตั้งทีมปฏิบัติการร่วมเคลื่อนที่เร็วเพื่อสอบสวนและควบคุมโรค เมื่อมีการร้องขอ10.ขอให้ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกให้หลักฐานที่โปร่งใส ถูกต้องและรวดเร็ว ในการให้ข้อมูลการระบาดและคู่มือคำแนะนำเกี่ยวกับการรับมือโรคนี้อย่างมีประสิทธิภาพ 
11.ให้ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลกเตือนภัยโรคระบาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด 12.ขอให้สรุปผลการประชุมขององค์กรระหว่างประเทศในการแบ่งปันไวรัสเอช 5 เอ็น 1 และไข้หวัดใหญ่อื่น ๆ ที่มีโอกาสจะระบาดในมนุษย์ เพื่อให้มีการแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน
13.ขอให้ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกเข้าถึงวัคซีนอย่างเท่าเทียมกัน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในภูมิภาคนี้
14.ขอให้องค์กรพัฒนาต่าง ๆ ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและเทคนิค เพื่อเพิ่มคลังยาที่จำเป็นและอุปกรณ์ป้องกัน
15.ขอให้เลขาธิการอาเซียนทำการซักซ้อมแผนรับมือ เพื่อที่จะให้สามารถนำคลังยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
 
ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า นายไคจิ ฟูกูดะ รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ฮู) แถลงว่า อาจมีประชากรถึง 2 พันล้านคนติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หากการแพร่ระบาดลุกลามไปทั่วโลกเช่นนี้อีก  อย่างน้อย 2 ปี เพราะพิจารณาจากตัวเลขของ  การแพร่ระบาดของโรคติดต่อร้ายแรงในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาพบว่า มีประชากร 1 ใน 3 ของประชากรโลกซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 6 พันล้านคนนั้น ติดเชื้อของโรคระบาดร้ายแรง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอิสระเห็นด้วยเช่นกันว่า การคาดหมายเช่นนี้มีความเป็นไปได้ แต่ก็เตือนว่ายังมีคนอีกมากที่ติด เชื้อแล้วไม่ได้แสดงอาการออกมา
 
ที่กรุงบัวโนสไอเรสประเทศอาร์เจนตินา นายกราซีลา โอคานา รมว.สาธารณสุขอาร์เจนตินาแถลงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อรายแรก ของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นรายแรกของประเทศ โดยพบว่าเป็นชาวอาร์เจน ไตน์ ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา และแสดงอาการติดเชื้อออกมา ส่วนที่กรุงบราซิเลียประเทศบราซิล นายโฮเซ่ โกเมซ เทมโปเรา รมว.สาธารณสุข บราซิลแถลงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อ 4 รายแรกของประเทศเช่นกัน ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากเม็กซิโกและสหรัฐ นับว่าบราซิลเป็นประเทศล่าสุดประเทศที่ 26 ที่พบการติดเชื้อไวรัสระบาดทั่วโลก
 
ศาสตราจารย์สุเรช มิตตัล แห่งมหาวิทยาลัยเพอร์ดูประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และหวังว่าจะได้เริ่มทดลองกับสัตว์ทดลองคือหนูในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ เพื่อที่จะได้เริ่มทำการผลิตได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้เช่นกัน ทั้งนี้ ศาสตราจารย์มิตตัลและคณะนักวิจัยของศูนย์ ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐจะใช้ วิธีการเดียวกันกับการพัฒนาวัคซีนไข้หวัดนก เอช 5 เอ็น 1 เพื่อยกระดับและพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
 
ส่วนที่ฮ่องกง สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แขกที่มาพักกว่า 280 คน รวมถึงพนักงานโรงแรมเมโทรปาร์ค ซึ่งต้องถูกกักกันโรคนาน 1 สัปดาห์ เนื่องจากเกรงติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หลังจากที่มีชาวเม็กซิกันคนหนึ่งมาพักที่โรงแรมแห่งนี้แล้วพบว่าติดเชื้อไวรัสก็ได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกันนี้ เพราะครบกำหนดเวลาสำหรับการกักกันโรค หนึ่งในแขกของโรงแรมที่ถูกกักบริเวณเปิดเผยว่า ทันทีที่ออกจากโรงแรมได้ก็อยากสูดกลิ่นอายของอิสรภาพและจะเข้าไปเช็กอินนอนพักผ่อนอย่างสบายในโรงแรมชั้นหนึ่ง แล้วลืมเรื่องราวเก่า ๆ นี้เสีย.
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=198562&NewsType=1&Template=1

Insert movie times and more without leaving Hotmail®. See how.