นายจุมพล สำเภาพล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สจส. อยู่ระหว่างศึกษาการใช้มาตรการควบคุมจำนวนรถยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีแนวคิดกันมานานและเคยมีการศึกษากันไปหลายครั้ง เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดได้ เนื่องจากเป็นการจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบต่อผู้ใช้รถจึงยังไม่สามารถบังคับใช้ได้ ดังนั้นสจส.จะศึกษาในเรื่องนี้อีกครั้งรวมทั้งรวบรวมผลการศึกษาเดิม และเก็บข้อมูลจากประเทศที่ใช้มาตรการนี้และเดินทางไปดูงานเช่นที่อังกฤษ สวีเดน รวมทั้งศึกษาข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น กรมการขนส่งทางบก ตำรวจ เพราะต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน คาดว่าจะใช้เวลาราว 1 ปี เพื่อสรุปข้อมูลเบื้องต้นจากนั้นจะได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาศึกษาในรายละเอียดต่อไป วางเป้าหมายเริ่มใช้มาตรการนี้ราวปี 2554 เพื่อรอให้การก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ จะได้เป็นทางเลือกให้ประชาชนมากขึ้น ในการลดการใช้จำนวนรถยนต์ส่วนตัวหันมาใช้รถไฟฟ้า และรถสาธารณะแทน นายจุมพล กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการนี้ต้องดำเนินการควบคู่กันไปหลายแนวทาง เช่น มาตรการทางการบริหารจัดการ กำหนดห้ามจอดรถในถนนสายต่าง ๆ ที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น จากเดิมที่ห้ามเฉพาะบางสาย ห้ามรถที่มีคนคนเดียวหรือ 2 คนเข้าในถนนบางสาย หรือกำหนดเป็นพื้นที่ (โซนนิ่ง) ห้ามรถเข้าถนนบางสายหรือในโซนนิ่งที่กำหนดในวันคู่วันคี่ตามเลขท้ายทะเบียนรถยนต์ มาตรการทางด้านกฎหมายเช่น กำหนดค่าปรับผู้ฝ่าฝืนที่เข้มงวด กำหนดอายุการใช้งานของรถยนต์ และมาตรการทางภาษี เช่น เก็บค่าธรรมเนียมเมื่อเข้าพื้นที่การจราจรหนาแน่น หรือในโซนนิ่งที่กำหนด เก็บค่าธรรมเนียมค่าจอดรถในอัตราที่แพงขึ้น.. |