วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เปิดรับสมัครผู้กล้าทดลองวัคซีนหวัด09 สัปดาห์หน้า

เปิดรับสมัครผู้กล้าทดลองวัคซีนหวัด09

หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ สรุปข่าวหน้าหนึ่ง -- 1 ชั่วโมง 24 นาทีที่แล้ว
องค์การเภสัชฯเตรียมเปิดรับอาสาสมัครทดลองวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สัปดาห์หน้า เผยจะทดลองทั้งในคนและสัตว์ 120 วันก่อนนำออกมาใช้ คาดล็อตแรกผลิตใช้ได้เดือน ธ.ค. โดยมีเป้าหมายผลิตให้ได้ 10 ล้านโดส "อภิสิทธิ์" ยอมรับไม่สามารถฉีดให้ประชาชนได้ทุกคนเพราะของมีจำกัดพูดไม่ชัดผู้บริหารได้สิทธิ์ฉีดก่อนหรือไม่
http://www.ryt9.com/s/psum/610907/

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com

 
 
 
 




เพิ่มแผนที่และทิศทางไปสู่งานปาร์ตี้ของคุณ แสดงเส้นทาง!

วันอาทิตย์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พระลอ, เวียงลอ ที่พะเยา จากคำเขมร "ลออ"-หล่อ, งาม

 
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11447 มติชนรายวัน


พระลอ, เวียงลอ ที่พะเยา จากคำเขมร "ลออ"-หล่อ, งาม


คอลัมน์ สยามประเทศไทย

โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ



ชื่อ ลอ ของพระลอ แปลว่า หล่อ, งาม มีรากจากคำเขมรที่ไทยรับมาเขียนว่าลออ

พระลอ มี 2 คำ คือ พระ กับ ลอ

พระ เป็นคำนำหน้าชื่อเทพเจ้า, พระราชา, พะราชาคณะ, เช่น พระอินทร์, พระนเรศวร, พระวินัยเวที, เป็นต้น

ลอ มาจากคำเขมรเขียน ลฺอ (มีจุดใต้ตัว ล)อ่านว่า ละ-ออ หรือ ลฺ-ออ หมายถึง งาม แล้วไทยรับมาเขียน ลออ แผลงเป็น หล่อ นี่อาจเป็น"ภาษาร่วม"ของสุวรรณภูมิตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็ได้ โดยยังไม่แยกเป็นคำของใครชัดเจน

เพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น ผมขอคัดคำอธิบายจากหนังสือพจนานุกรมเขมร-ไทย (เล่ม 4) ฉบับทุนพระยาอนุมานราชธน พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2525 มาดังนี้

ลฺอ (ลฺออ) สวย งาม ดี น่า เช่น จิตฺตลฺอ (เจ็ดลฺออ) ใจดี รูปลฺอ (รูปลฺออ) รูปสวย อํเพีลฺอ (อ็อมเปอลฺออ) ความประพฤติดี สมฺฏีลฺอ (ซ็อมเต็ยลฺออ) ถ้อยคำไพเราะ ปฺรพฺรึตฺตลฺอ (ปฺรอพฺรึด ลฺออ) ประพฤติดี กรรมดี การทำดี นิยายลฺอ (นิเยียวลฺออ) พูดดีพูดเพราะ เธฺวีการลฺอ (ทฺวอการ์ ลฺออ) ทำการทำงานดี ลฺอชา (ลฺออเจีย) ซื่อตรง ถูกต้อง เรียบร้อย เช่น มนุสฺสลฺอชา (มะนุส์ลฺออเจีย) คนซื่อตรง สมฺฏีลฺอชา (ซ็อมเต็ยลฺออเจีย) คำพูดซื่อๆ คำพูดที่ถูกต้อง ลฺอเมีล (ลฺออเมิล) น่าดู ลฺอสี (ลฺออซี) น่ากิน ลฺอลฺอาจ่ (ลฺออลฺอัจ) สวยเหมาะเจาะ สวยงาม สวยหมดจด เช่น รูปรางลฺอ ลฺอาจ่ (รูปเรียงลฺออลฺอัจ) รูปร่างสวยเหมาะเจาะ เธฺวี-การลฺอลฺอาจ่ (เทฺวอการ์ลฺออลฺอัจ) ทำงานเรียบร้อย ลฺอลฺอิต (ลฺออเลฺอ็ด) สวยหมดจด สวยงามละเอียดลออ เช่น รูปโฉมลฺอลฺอิต (รูปโซม ลฺออเลอ็ด) รูปโฉมสวยหมดจด เธฺวีการโอยลฺอลฺอิต (เทวฺอการ์ออยลฺออเลฺอ็ด)ทำงานให้เรียบร้อยละเอียดลออ ลฺอลฺอะ (ลฺออลฺอะห์) สวยผุดผ่อง เช่น รูปโฉมลฺอลฺอะ (รูปโซมลฺออลฺอะห์) รูปโฉมสวยผุดผ่อง (ในกาพย์กลอน ใช้ ลฺอะลฺอ ก็ได้)

ห้องแสดงหลักฐานเกี่ยวกับเวียงลอ และนิทรรศการเรื่องพระลอ ที่ อ.จุน จ.พะเยา ภาพนี้ถ่ายเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมานี้เอง


ลาวมีคำว่า ลอ แต่หมายถึง บ่างจำพวกหนึ่งมี 2 ชนิด คือบ่างเล็กกับบ่างใหญ่ แล้วยังหมายถึง ตาที่ส่อนหรือถั่วเล็กน้อย (สรุปจากสารานุกรมภาษาอีสาน-ไทย-อังกฤษ ของ ปรีชา พิณทอง พิม์ครั้งแรก พ.ศ.2532)

พระเพื่อน, พระแพง สองสมรของพระลอ คำว่า เพื่อน, แพง มีความหมายว่ารักทั้งคู่

เพื่อน หมายถึง ผู้รักใคร่กัน, อยู่ด้วยกัน ส่วน แพง หมายถึง รัก, หวงแหน

พระลอเป็นภาคจบของตำนานท้าวฮุ่ง ท้าวเจือง ไม่มีเรื่องจริง แต่ใช้ฉากภูมิประเทศจริงๆ ของล้านนากับล้านช้าง กล่าวคือพระลออยู่หลวงพระบาง (ล้านช้าง) ส่วนพระเพื่อนพระแพงอยู่พะเยา (ล้านนา)

แม่น้ำกาหลงในพระลอ คือแม่น้ำโขง เพราะคนพื้นเมืองเรียกแม่น้ำเก้าลวง (หมายถึงนาค 9 ตัว) แล้วเพี้ยนเสียงเป็นกาหลง

เวียงลออยู่ริมน้ำอิงที่ อ. จุน จ. พะเยา ควรหมายถึงเวียงงามหรืออย่างอื่นๆ มากกว่าจะหมายถึงเวียงของพระลอ เพราะพระลอเป็นเจ้าครองเมืองกาหลง หมายถึงหลวงพระเบาง หรือเดิมเรียกเชียงดงเชียงทอง แต่เวียงลอที่พะเยาถูกลากเข้าตำนานเรื่องพระลอโดยคนสมัยหลัง ผ่านระบบโรงเรียนที่รู้วรรณคดีลิลิต พระลอตามกระแสหลักแล้ว

หน้า 21
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra03130752&sectionid=0131&day=2009-07-13

--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.pnac-th.org
http://dbd-52.hi5.com

หญิงเซเนกัล เจอพิษสุดช็อค ของครีมผิวขาว!!!

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11447 มติชนรายวัน


หญิงเซเนกัล เจอพิษสุดช็อค ของครีมผิวขาว!!!


คอลัมน์ ร่อนตามลม

โดย raikorn@hotmail.com




แพทย์หญิง ซูแซน อูมู เนียง ของโรงพยาบาลในกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล ชี้ให้ดูแผลอักเสบ ติดเชื้อของคนไข้ที่ใช้ครีมทาผิวขาว
เป็นเวลาถึง 20 ปี ที่นางดิออพ ซื่อสัตย์ต่อการบรรจงทา "ครีมผิวขาว" ลงบนใบหน้าก่อนนอนทุกคืน ด้วยความเชื่อว่า มันจะทำให้เธอดู "สวยขึ้น" กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เมื่อเธอ สังเกตเห็น "จุดดำๆ" หลายจุดเริ่มปรากฏขึ้นบนผิวหน้า!!!

"ฉันอยากมีผิวขาว เพราะคนชอบบอกว่า มันทำให้คุณดูสวยขึ้น" หญิงวัย 50 ซึ่งอายเกินกว่าจะยอมบอก "ชื่อ" ของเธอแก่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีในกรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เธอขอบอกแค่นามสกุล และยอมออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อเตือนให้ผู้หญิงได้รู้ถึงอันตรายของครีมทาผิวขาว ที่น่ากลัวเกินกว่าหลายคนคาดคิด!!!

จากรายงานของเอเอฟพีบอกว่า ครีมทาผิวขาว มักจะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน ซึ่งแพทย์ผิวหน้าบอกว่า เป็นสารอันตรายต่อผิวหนัง และควรมีการใช้อย่างระมัดระวังภายใต้การดูแลของแพทย์ แต่ถึงกระนั้นตามท้องตลาดในเซเนกัล ก็มีครีมทาหน้าขาว และผลิตภัณฑ์บำรุงความงามที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว วางขายเกลื่อนกลาด ล่อใจลูกค้าที่เชื่อว่า ผิวขาว ทำให้ผู้หญิงดูสวยขึ้น

ทั้งนี้ จากรายงานของแพทย์ผิวหนังชาวเซเนกัล และฝรั่งเศส เมื่อปี 2546 บอกว่า มีการใช้ครีมหน้าขาวกันอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้หญิงแถบทวีปแอฟริกา โดยประมาณว่า มีผู้หญิงราว 25-67% ที่ใช้ครีมทาหน้าขาวเป็นประจำ

สำหรับคนที่ใช้ไวเทนนิ่งครีม หรือครีมทาเพื่อช่วยให้ผิวหน้าขาวมานานถึง 20 ปี อย่าง นางดิออพ เจ้าตัวยอมรับเลยว่า มันทำใจยากมากที่จะให้เลิกทา ถึงแม้จะเห็นจุดดำๆ เริ่มปรากฏ ส่อเค้าไม่ดีบนใบหน้า

สภาพบาดแผลของคนไข้ ที่เกิดจากการใช้ครีมผิวขาว


"ในการหักห้ามใจ เลิกใช้ ฉันได้รับกำลังใจจากเพื่อนคนหนึ่ง หากไม่มีเพื่อนคนนี้คอยช่วย ฉันคงเลิกได้ลำบากมาก เพื่อนคนนี้ นำนิตยสารหลายเล่มมาให้ฉันดูรูปผู้หญิงหลายคนที่กำลังได้รับผลข้างเคียงจากการทาครีมผิวขาว พอฉันเห็นรูปเหล่านั้น ฉันก็บอกตัวเองเลยว่า ฉันต้องหยุดทามันจริงๆ แล้ว"

ครีมไวเทนนิ่งต่างๆ เป็นที่นิยมมากในกรุงดาการ์ เฉพาะที่ตลาดแซนดากา ตั้งอยู่ใจกลางกรุง บรรดาพ่อค้า แม่ค้า เล่าว่า แต่ละวันสามารถขายครีมหน้าขาวได้วันละหลายกล่อง ซึ่งมีหลากยี่ห้อ ในท้องตลาด อาทิ ครีมยี่ห้อ เอ็กซ์-ไวท์ (X-White), เคลียร์ (Clear) และไวท์ (White) ส่วนครีมราคาถูกที่สุด เป็นครีมนำเข้าจากประเทศมาลี และประเทศไอวอรี่ โคสต์ ที่วางขายกันในราคาเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 34 บาท ส่วนครีมและโลชั่นที่มีคุณภาพสูง อาจมีราคาสูงถึงขวดละ 25,000 ฟรังก์แอฟริกัน หรือราว 1,830 บาท

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเล่าว่า ได้พูดคุยกับมูนาสส์ สาววัย 21 ที่กำลังเดินหาซื้อครีมทาหน้าขาวอยู่ในตลาด เธอเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ทาครีมไวเทนนิ่งวันละ 2 ครั้ง และหมดเงินไปกับค่าครีมเหล่านั้น ประมาณเดือนละ 40,000 ฟรังก์แอฟริกัน (ราว 2,430 บาท) จำนวนเงินที่มากกว่าเงินเดือนค่าแรงขั้นต่ำของคนเซเนกัล และเหตุผลที่เธอลงทุนใช้ครีม แม้ต้องหมดเงินไปมากมาย ก็เพราะ "ผู้ชายชอบผู้หญิงผิวขาวเนียน"

ผู้สื่อข่าวถามมูนาสส์ด้วยว่า เธอรู้หรือเปล่าว่า ครีมพวกนี้มีอันตรายต่อสุขภาพของเธอ แล้วก็ได้รับคำตอบว่า "ฉันไม่รู้หรอกว่า ครีมพวกนี้มีอันตรายต่อสุขภาพฉัน" จากนั้นเธอก็ขอตัวไปเดินเลือกซื้อครีมต่อด้วยท่าทีไม่รู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ

ด้วยความที่เป็นครีมที่ผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงจากสารสเตียรอยด์ และไฮโดรควิโนน โดยเฉพาะ ไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นตัวยาที่ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป ได้ประกาศห้ามใช้ตั้งแต่ปี 2544 ในฐานะเป็นสารที่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ส่วนที่เซเนกัล ก็มีการประกาศห้ามเด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษาใช้ครีมทาผิวขาว หากจับได้ว่านักเรียนคนใดใช้อาจเสี่ยงที่จะถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่ถึงกระนั้นในเซเนกัลก็ยังมีคนนิยมใช้ครีมเหล่านี้อย่างแพร่หลาย

ซูแซน อูมู เนียง แพทย์ผิวหนังโรงพยาบาลเอริสไทด์ แดนเทค ในกรุงดาการ์ เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ปริมาณการใช้ครีมทาผิวขาวในเซเนกัลได้เพิ่มปริมาณขึ้นมากว่า 10 ปีแล้วด้วยซ้ำ

"ครีมเหล่านี้วางขายกันอย่างเสรี ทั้งที่ควรเป็นครีมที่แพทย์เท่านั้นเป็นผู้สั่งจ่ายให้คนไข้ตามอาการต่างๆ ทางผิวหนัง เจ้าหน้าที่ควรสั่งแบน ห้ามการขายครีมทาผิวขาว และให้ความรู้แก่ประชาชนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ครีมเหล่านี้"

หมอซูแซนประเมินว่า คนไข้ที่มีอาการติดเชื้อทางผิวหนังอย่างรุนแรงที่มาให้เธอรักษา เกิดจากการใช้ไวเทนนิ่งครีม ถึง 60% "มันกลายเป็นปัญหาสุขภาพที่กำลังเกิดขึ้นในสังคม ผู้หญิงทุกระดับอายุ ทุกระดับชั้นต่างใช้ครีมเหล่านี้ เพราะว่ามีวางขายทุกระดับราคาให้สามารถเลือกซื้อกันได้"

คุณหมอเล่าว่า ปัญหาที่คนไข้มาพบเธอบ่อยๆ หลังจากใช้ครีม มีทั้งปัญหาเรื่องสิว จุดด่างดำ และผิวหนังบวมจากการใช้ครีม "ความเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เกิดจากสารสเตียรอยด์ ซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด"

คุณหมอยังพูดถึงปัญหานี้ ซึ่งยากจะแก้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากการขาดความมั่นใจ และความเชื่อของผู้หญิง ที่เชื่อว่า การมีสีผิวที่ขาว นั่นหมายถึงความทันสมัย มีเสน่ห์ และช่วยทำให้ตนดูมี ระดับทางสังคมขึ้น

สำหรับนางดิออพ ซึ่งเลิกทาครีมได้แล้ว เธอเล่าว่า เธอรู้สึกแปลกใจมากกับคำชมที่ไม่คาดฝันว่าจะได้ยิน "ทุกคนต่างบอกว่า ฉันดูสาวขึ้น แม้แต่สามีฉันเอง"


หน้า 25
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad01130752&sectionid=0115&day=2009-07-13
                        

ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com




ดูส่วนอื่นๆ ของ Windows Live™ มากกว่าเมล–Windows Live™ เป็นยิ่งกว่ากล่องรับอีเมลของคุณ มากกว่าข้อความ