"รสนิยม + ค่านิยม + แนวนิยม" สมดุลพลังชีวิตเส้นผม |
โดย แดงส์ ตักสิลา | 29 เมษายน 2552 11:04 น. |
|
fashionhora@gmail.com โหราแฟชั่นครั้งนี้สำหรับแฟนๆ ที่เป็นช่างผมโดยเฉพาะ และลูกค้าก็อาจจะเก็บตกไปเป็นความรู้ หรือแนวคิดหารือ สร้างสมดุลความงามของเส้นสายลายชีวิตเส้นผม ที่ต้องการได้จากช่างผมคู่ใจ โดยเฉพาะ "ช่างผมไทย" ต้องยอมรับและเตรียมตัวเตรียมใจได้แล้ว เพราะเดิมช่างผมเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย แต่เมื่อก้าวสู่โลกเสรี ก็ต้องกลายเป็นอาชีพเสรี ซึ่งในไม่ช้าจะมีช่างผมต่างชาติ ต้นตำหรับที่ช่างไทยบินไปรับเทคนิค หรือมีช่างต่างชาตินำมาเผยแพร่เทคนิค จะมาเปิดกิจการทำธุรกิจแข่งกับช่างไทย ซึ่งไม่รู้จะมีสภาวะเหมือนกับโชว์ห่วย กับค้าปลีกต่างชาติ ที่เป็นปัญหาคาใจจนบัดนี้
| กว่าจะเกิดภาพรวม สไตล์เส้นผม เป็นรูปลักษณ์ รูปแบบ ลีลาหลากหลาย ทั้งที่ปรากฏเป็น "แนวโน้มแฟชั่นทรงผม (Hairstyle Trend)" เฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ กลุ่มช่างผมมืออาชีพระดับแนวหน้า และกลุ่มดีไซเนอร์ชั้นนำระดับโลก ล้วนต้องมีการประเมินผลลัพธ์ของการยอมรับในฤดูกาลที่ผ่านมา แล้วมาประเมินผลลัพธ์ที่คาดหวัง สัมพันธ์กับการพิจารณากระแสเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองโลกไร้พรมแดน การจะยึดครอง ผู้บริโภคแฟชั่น (Fashion Consumers) ได้มากที่สุด การวิจัยและพัฒนา (R&D) เป็นเรื่องที่ต้องลงมือทำกันอย่างจริงจัง เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำที่ถูกทิศถูกทาง ผมมีลูกศิษย์ที่มาเรียนด้านแฟชั่นที่ตักส์ศิลา โดยมีอาชีพหลักเป็นช่างผมและช่างเสริมสวยหลายคน ถามเขาว่า "มาเรียนไปทำไม ที่ทำอยู่ก็ลูกค้ามากจนล้นมือแล้วมิใช่หรือ" ส่วนใหญ่จะบอกว่ามีปัญหาด้านการปรับทัศนคติ และโลกทัศน์ กับลูกค้า และลูกน้องในร้าน ตลอดจนการตอบคำถามลูกค้าได้ไม่ชัดแจ้ง ที่สำคัญ ต้องต่อสู้กับความลงตัวระหว่างคำ 3 คำ คือ "รสนิยม ค่านิยม และแนวนิยม" ว่าขณะที่กำลังดูแลลูกค้า จะต้องหาค่าเฉลี่ยให้สมดุลอย่างไร จึงต้องมาเรียนรู้ด้านศิลปะศาสตร์แฟชั่น เพื่อนำเอาภาษาแฟชั่น ไปใช้เจรจาจูงใจ ลูกค้าให้ถูกทาง เพราะคงจะใช้แค่ฝีมือที่ทำผมให้ลูกค้าได้ทุกรูปแบบจะครองใจลูกค้าได้ยั่งยืน..คงไม่พอ
| ดังนั้นผมจึงอยากจะนำเอาคำ 3 คำนั้น มาถ่ายทอดให้กับแฟนประจำของ "โหราแฟชั่น" ทั้งช่างผมและลูกค้าได้นำไปบริหารจัดการให้เกิดผลลัพธ์ที่โดนใจด้วยกันทั้งสองฝ่ายอย่างสมดุล รสนิยม (Style/Taste) เป็นความชอบส่วนตัว ที่ฝังใจลึกล้ำ ในตัวตนของทั้งลูกค้าและช่างผม ถ้าเผอิญตรงกันก็จบ ถ้าไม่ตรงกันก็ต้องดูว่า ใครนำ ใครตาม คนนั้นได้นำเอารสนิยมส่วนตัวมาเป็นบทสรุป ค่านิยม (Fashion) เป็นความพึงพอใจของกลุ่มคน กลุ่มสังคม วิถีชีวิต ที่เกาะกลุ่ม ทั้งลูกค้า และช่างผม จุดนี้ทำให้กลายมาเป็นรูปลักษณ์ และเอกลักษณ์กลุ่ม และพัฒนาเป็นแบรนด์ ทำให้เกิดกระแสนำ กระแสตาม กระแสเลียนแบบ และที่สุดก็เชือดเฉือนกันด้วยราคา หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แนวนิยม (Trend & Influence) เป็นการนำเสนอรูปแบบใหม่ สไตล์ใหม่ กระแสที่คาดว่าจะมาแรงเร็วๆ นี้ ส่วนใหญ่จะมาจากช่างผมมืออาชีพ ที่มีสายสัมพันธ์กับต่างประเทศ หรือเดินทางไปสัมมนา หรือมีกิจกรรมร่วมกับผลิตภัณฑ์แบรนด์ดัง แนวนิยมจะส่งผลให้เกิดค่านิยม และแยกกระจายไปตามรสนิยม พูดง่ายๆ แนวนิยมสไตล์เดียวอาจเกิดค่านิยมหลากหลายกลุ่ม อยู่ที่รสนิยมของช่างผมมืออาชีพ จะพัฒนา ปรับรูปแบบ หรือเกิดจากสไตล์ที่ไปตรงกับรสนิยมของลูกค้าส่วนใหญ่ ที่สุดแนวนิยมจะคงอยู่นานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับกระแสใหม่ ที่จะมีความแรง จนเบียดแซง หรือล้มแนวนิยมเดิมได้หรือไม่
| จาก แนวนิยมสู่ค่านิยม และปรับเป็นรสนิยม สไตล์เส้นสายลายเส้นผมของช่างผม ไม่ว่าจะเป็นแค่ร้านเดียว มีหลายสาขา หรือเติบโตเป็นแบรนด์ ขยายเป็นแฟรนส์ไชส์ กำลังจะต้องก้าวสู่การจัดรูปแบบที่มีรูปลักษณ์อย่างมี เอกลักษณ์เฉพาะ (Independently Unique) จากภายในสู่ภายนอก และการนำเสนอเชิงประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง กิจกรรม งานโชว์ จะต้องสะท้อนภาพที่ตรงกับศักยภาพทีมงานภายใน ที่มิได้เพียงแค่การนำเสนอเชิงสร้างภาพเป็นค่านิยมเฉพาะบุคคล หากบุคคลที่เป็นผู้นำและอาจได้รับการยอมรับจากสังคมแฟชั่นทรงผม ในด้านความเป็นผู้นำจะต้องตระหนักว่า "รสนิยมส่วนตนจะต้องพัฒนาเป็นหลักการที่ ฝึกพัฒนาให้กลายเป็นค่านิยมทีม และรูปแบบการให้บริการอย่างมีระบบ ที่มิใช่โดดเด่น แค่การนำเสนอคนๆ เดียว" ซึ่งหากระบบการผสมผสานค่าเฉลี่ยของรสนิยม ค่านิยม แนวนิยม ให้สอดคล้องสัมพันธ์กันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะมีโอกาสพัฒนาองค์กรของตนเอง ก้าวไปสู่ความเป็น "สถาบันช่างผมมืออาชีพ ที่อาจมีบทบาทในการกำหนด แนวโน้มแฟชั่นทรงผมได้ด้วยตนเองก็ได้" เติมเต็มต่อแต้มศักยภาพตัวตน ให้พร้อมจะยืนหยัดสู้กับธุรกิจช่างผมของต่างชาติ ที่จะพาเหรดเข้ามายึดตลาดให้ได้ ! | |
http://www.manager.co.th/Lady/ViewNews.aspx?NewsID=9520000047917
Windows Live™: Keep your life in sync.
Check it out.