วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

มองไม่เห็นหัวคนจน

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11369 มติชนรายวัน


มองไม่เห็นหัวคนจน


คอลัมน์ เดินหน้าชน

โดย ภาคภูมิ ป้องภัย



ผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวนมากมายยังไม่ได้รับคืนเงินภาษี เนื่องจากปีนี้กรมสรรพากรตรวจสอบเอกสารอย่างเข้มข้น ท่ามกลางข่าวลือว่ารัฐไม่มีเงินสดในมือมากพอที่จะจ่ายคืนภาษีในห้วงนี้ จึงเลือกหน่วงเวลาคืนออกไปก่อนจนกว่าภาษีเงินได้นิติบุคคลจะเข้าคลังมากขึ้น

ผมเองเป็นอีกคนที่ยังไม่ได้รับคืนราวหมื่นบาท ทั้งๆ ที่ยื่นไปตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สรรพากรติดต่อขอให้ส่งสำเนาหลักฐานใบเสร็จต่างๆ ที่ขอหักลดหย่อนไปให้ ผมก็ส่งในวันถัดมา

จากนั้นตรวจสอบเป็นระยะจนถึงวันนี้ แต่ก็ยังพบข้อความเดิมๆ ว่า "เจ้าหน้าที่พิจารณาคืนภาษีได้รับเอกสารของท่านแล้ว หากมีภาษีได้คืน กรมสรรพากรจะสั่งคืนเงินภาษีให้ท่านต่อไป"

เอาเถอะ ผมไม่ได้ติดใจอะไรหรอกครับ กรมสรรพากรอาจมีเจ้าหน้าที่น้อย รัฐบาลอาจมีนโยบายหน่วงเวลาคืนเงินภาษี หากคนมีรายได้พออยู่พอกิน จะได้รับผลกระทบจากการนี้บ้างก็ไม่เป็นไร

แต่ผมทนไม่ได้กับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หั่นงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค จำนวน 48,068 ล้านบาทลงไป เนื่องจากรายได้รัฐหดหายไป 2 แสนล้านบาท ทำให้เหลืองบฯอุดหนุนผู้ป่วยรายหัวเพียง 2,406 บาทต่อคน จากเดิมตกลงกันไว้ที่ 2,707 บาทต่อคน นอกจากนี้ยังปรับลดงบฯบริการผู้ป่วยเอดส์ โรคเรื้อรัง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง งบฯส่งเสริมการจัดบริหารสาธารณสุขอีกด้วย โดยที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข 2 คนในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทักท้วงปกป้องสิทธิประโยชน์ให้คนยากคนจนเลย

โดยหลักการแล้ว ยิ่งงบฯต่อหัวสูงเท่าไหร่ เกษตรกร คนยากคนจน ผู้มีรายได้น้อย คนนอกระบบประกันสังคม คนชายขอบ ฯลฯ ยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น นอกจากต้องไม่หั่นแล้ว ยังสมควรเพิ่มขึ้นทุกปีตามภาวะเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน มีงบฯมากมายสมควรหั่น เช่น งบฯลงทุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กองทัพ งบฯองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น งบฯก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ฯลฯ แต่รัฐบาลไม่กล้าหั่น

ไม่เพียงเท่านั้น แทนที่พรรคประชาธิปัตย์จะเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ภาษีทรัพย์สิน ร่าง พ.ร.บ.เพิ่มเพดานเก็บภาษีน้ำเมา เพื่อหารายได้จากคนมีมากจนล้น แล้วนำมาชดเชยส่วนที่ขาด จะได้ไม่ต้องเบียดบังเอาจากคนยากคนจน แต่จนบัดนี้รัฐบาลยังไม่กล้าหาญพอที่จะทำเพื่อลดช่องว่างในสังคม

ทีกับคนยากคนจน ดูช่างตัดสินใจลงมือได้ง่ายและรวดเร็วเสียจริงๆ หรือเพียงเพราะพวกเขาไม่มีปากมีเสียงเหมือนคนร่ำคนรวย เหมือนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และไม่มีอำนาจต่อรองเหมือนพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล และกองทัพ

หรือเพียงเพราะพวกเขาไม่ใช่เป้าหมายหลักในการสร้างคะแนนนิยม เนื่องจากไม่ค่อยได้รับคะแนนเสียงจากคนเหล่านี้ เมื่อเทียบกับคนชั้นกลางที่อยู่ในระบบประกันสังคม และระบบราชการ

หรือเพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยี่หระกับประเด็นช่องว่างทางชนชั้นซึ่งแกนนำกลุ่มเสื้อแดงมักนำมาใช้ปลุกระดมชาวนาชาวไร่ คนยากคนจนในภาคเหนือและภาคอีสาน จนคนเหล่านี้เริ่มคล้อยตามบ้างแล้ว

ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ใช้โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาทผลักไสคนระดับล่างออกห่างจากตัวเองมาแล้ว คราวนี้จะทำซ้ำสองอีกหรือ

ถึงที่สุดแล้วแม้การที่รัฐบาลหั่นงบฯประกันสุขภาพถ้วนหน้าลงอาจจะไม่มีผลกระทบต่อบริการตามที่สำนักงานระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยืนยันเป็นฉากๆ

แต่ในเชิงสัญลักษณ์แล้ว มติ ครม.ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลมองไม่เห็นหัวคนยากคนจน

หน้า 8

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act01260452&sectionid=0130&day=2009-04-26


Windows Live™ Hotmail®:…more than just e-mail. Check it out.