| "It's not how long you live but how you live!!!" มันไม่สำคัญว่าคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน แต่มันสำคัญว่าคุณจะมีชีวิตอยู่อย่างไร! นี่คือหลักคิดสำคัญของใช้ชีวิต ที่เหลืออยู่ของแต่ละคน ซึ่งไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า มีชีวิตที่เหลืออยู่มากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าคุณเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยโรคร้ายแรง เพราะหากมองว่า เวลามันไม่สำคัญเท่ากับว่า คุณจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไรให้มีคุณค่าและมีความสุขมากที่สุด โค้ชสิริลักษณ์ ตันศิริ นักพูดสร้างกำลังใจหญิงคนแรกของเมืองไทยเธอมีวิธีสร้างกำลังใจที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาในการใช้ชีวิตต่อไปอย่างเปี่ยมสุข และภาคภูมิใจในตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ประการแรกเธอบอกว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร ใครจะเรียกว่าคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายแล้วก็ตาม แต่... อย่าพูดว่า "ฉันแก่แล้ว" หรือ "ฉันชราภาพแล้ว" เด็ดขาด!! เพราะคำพูดของคนเรามีพลังในการสร้างสภาวะอารมณ์และความรู้สึก ถ้าเราบอกว่า "ฉันแก่แล้ว" เราจะไม่อยากทำอะไร อยากอยู่เฉยๆ นิ่งๆ สมองมันจะสั่งการให้เราเคลื่อนไหวเชื่องช้าเองโดยอัตโนมัติ " เคยเห็นฝรั่งตายาย ที่มาเที่ยวพักผ่อนในเมืองไทยไหม๊ค่ะ เขาเดินจูงมือกันกระหนุงกระหนิง พากันไปเที่ยวตามที่ต่างๆ หาอาหารอร่อยๆทาน เวลาอยู่โรงแรมเขาก็จะไปว่ายน้ำเล่นในสระ บางทีเห็นคุณยายบางคนยังใส่ชุดว่ายน้ำทูพีซเลย! ว้าว! รู้สึกเกิดแรงบันดาลใจไหมค๊ะ …หน้าตาเขาก็มักจะสดชื่อแจ่มใสมีชีวิตชีวา ไม่ห่อเหี่ยว หมดเรี่ยวแรงเหมือนกับคนที่ชอบอยู่เฉยๆ เงียบๆ คนมีอายุ หรือผู้สูงวัยก็สามารถทำอะไรได้เหมือนกับคนหนุ่มสาว ถ้าไม่สร้างข้อจำกัดให้กับตัวเอง และยังคงใช้ชีวิตอย่างมีแรงบันดาลใจ ก็สามารถทำอะไรได้อีกเยอะแยะมากมายอย่างคนที่มีอายุมากที่สุดที่ปีนขึ้นภูเขาเอเวอร์เรส ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก รู้ไหมว่าเขามีอายุเท่าไร ? คำตอบคือ. . 75 ปี!! ทำไมเขาทำได้ สาเหตุที่เขาทำได้เพราะเขาไม่สร้างข้อจำกัดให้ตัวเอง" แน่นอนว่าความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายผู้ที่มีอายุมากขึ้นอาจจะลดน้อยลง แต่สิ่งสำคัญกว่าร่างกายคือ "กำลังใจในการใช้ชีวิต"….." ท่านอยากจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของท่านอย่างไร? เป็นคนสูงอายุที่แก่ หง่อม เหี่ยวเฉา ไม่มีชีวิตชีวา ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร รอคอยวันสุดท้ายของชีวิต .. หรือว่า ..เป็นคนสูงอายุที่มีความสุข สดชื่น เบิกบานแจ่มใส มีรอยยิ้ม หัวเราะเริงร่า แข็งแรง กระปรี้กระเป่า มีกำลังใจที่ดีในการใช้ชีวิต โค้ชสิริลักษณ์ บอกว่า มีวิธีการปฎิบัติอย่างง่ายๆ ว่าด้วยเรื่อง "5 อ." ที่ต้องให้ความสำคัญคือ 1.อากาศ 2.อาหาร 3.อารมณ์ 4.อุจจาระ 5.ออกกำลังกาย ส่วน อ.ที่สำคัญมากๆ และไม่ควรมองข้ามคือ "อารมณ์" โดยโค้ชสิริลักษณ์เน้นย้ำความสำคัญของเรื่องอารมรณ์ให้ฟังว่า "คุณภาพชีวิตของเรา คือ คุณภาพของอารมณ์ที่เรามีในแต่ละวัน"พร้อมกันนี้ยังได้บอกวิธีปฏิบัติเพื่อให้เรามีอารมณ์และมีกำลังใจที่ดีได้อย่างง่ายๆ ดังนี้ คิดถึงแต่เรื่องที่ดีๆ มองทุกอย่างในแง่บวกเวลาที่เราได้รับสิ่งที่ไม่ชอบใจ ให้นึกถึงว่ายังมีคนได้รับอะไรที่แย่กว่าเราอีกหรือคิดว่า สิ่งที่เราได้รับอยู่นี้ อาจจะโชคดีอยู่แล้วก็ได้ ลองคิดดูว่าถ้าเราได้รับอะไรที่แย่กว่านี้ เราจะเลือกเอาแบบไหน? พูดคำว่า "โชคดี" บ่อยๆ ถึงแม้ว่าตาเริ่มฝ้าฟาง ก็โชคดีที่ยังมองเห็นอยู่ถึงแม้ว่าเดินเหินแล้วมันปวดหัวเข่าบ้าง ก็รู้สึกว่าโชคดีที่ยังมีขาให้เดินอยู่ถึงแม้ว่าอวัยวะบางอย่างมันทำงานไม่ค่อยจะดีแล้ว ก็ยังรู้สึกโชคดีว่ายังมีอวัยวะส่วนอื่นที่ยังทำงานได้อยู่ พูดคำว่า "ขอบคุณ" บ่อยๆเช่นกัน ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาให้พูดว่า "ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต่อวีซ่าให้ฉันอีก 1 วัน เฮ้!""ขอบคุณหัวใจของฉันที่ไม่เคยหยุดเต้นแม้แต่สักวินาทีเดียว!" "ขอบคุณลูกๆหลานๆของฉันที่ห่วงใยคอยดูแลฉัน" ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่เราระลึกถึงได้ ยอมรับในทุกสิ่ง อย่าคาดหวัง ผู้ใหญ่บางท่าน น้อยอกน้อยใจว่าลูกหลานไม่ค่อยจะมีเวลาให้ .. ซึ่งอย่าน้อยใจไปเลย คนที่ทำงานในปัจจุบันนี้ ต้องต่อสู้ดิ้นรนในชีวิตมากกว่าสมัยก่อน บางครั้งลูกหลานของเราอาจจะมีปัญหาหนักอกหนักใจในการใช้ชีวิต แต่เขาก็ไม่เล่าให้ญาติผู้ใหญ่ฟัง เพราะกลัวว่าท่านจะกลุ้มใจไปด้วย ดังนั้นทำใจให้สบาย อย่าไปคาดหวังว่าอะไรจะต้องเป็นอะไร ถ้าเราไม่คาดหวังใจของเราก็จะไม่เป็นทุกข์ ทำสมาธิให้จิตใจผ่องใส เบิกบาน สงบเย็นความสุขสงบในใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ทุกๆวันขอให้จัดเวลาที่จะนั่งเงียบๆ ทำ สมาธิ หรือฟังเพลงเบาๆ ผ่อนคลายให้มากที่สุด นึกถึงแต่เรื่องดีๆ เรียกความทรงจำดีๆกลับมาสัมผัสอีกครั้ง แต่ระวังอย่าให้เกิดความอาลัยอาวรณ์แล้วเป็นทุกข์เด็ดขาด ฉะนั้นสำหรับท่านใดที่ปรารถนาอยากจะเป็นคนสูงอายุที่มีความสุข สดชื่น เบิกบานแจ่มใส มีรอยยิ้ม หัวเราะเริงร่า แข็งแรง กระปรี้กระเป่า และมีกำลังใจที่ดีในการใช้ชีวิต หลีกเลี่ยงความ เหี่ยวเฉา ไร่ชีวิตชีวา ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร และรอคอยวันสุดท้ายของชีวิต .. ก็ลองนำหลักการทั้ง 5 ข้อไปปฎิบัติดูแล้วคุณจะรู้ว่า "แค่เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตเราก็เปลี่ยนได้ และเปลี่ยนไปในทางที่ดี มีคุณภาพมากขึ้นจริงๆ | 
