วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

นักรบชัมบาลา

นักรบชัมบาลา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2552 20:05 น.
       

        
            "แผ่นดินยังคงเป็นแผ่นดินอยู่เสมอ แผ่นดินยอมให้ใครก็ได้นั่งลงไป มันไม่เคยผลักไสไล่ส่ง มันไม่เคยปฏิเสธที่จะแบกรับ คุณจะไม่มีวันหลุดร่วงออกจากแผ่นดินออกไปลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศ ในทำนองเดียวกัน ฟ้าก็ยังคงเป็นฟ้า… ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก หรือมีหิมะ ไม่ว่าจะเป็นยามกลางวันหรือกลางคืน ฟ้าก็ยังคงอยู่ที่นั่น ในแง่มุมนี้เราอาจรู้สึกได้ว่าทั้งฟากฟ้าและแผ่นดินเป็นสิ่งที่เชื่อมั่นได้"
       


       

        
        
            ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ขอเพียงมีสติ ตระหนักรู้อยู่กับทุกลมหายใจที่คุณสูดรับเข้ามาและปล่อยออกไป เพียงอยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่ว่าโลกจะเป็นเช่นไร สวยงาม โหดร้าย ป่าเถื่อน เต็มไปด้วยลัทธิวัตถุนิยม บริโภคนิยม หรือมากด้วยเทคโนโลยีไฮเทคบ้าคลั่งสุดกู่ตามแบบฉบับของโลกในยุคศตวรรษที่ 21  ไม่ว่าอย่างไร ตัวตนที่แท้จริงของคุณจะไม่มีวันแตกสลายหรือกระจัดกระจาย
       
        
            นอกเหนือไปจากการมีสติรู้เท่าทันจิตใจ ดำเนินกายและจิตให้สอดประสานในทุกจังหวะอิริยาบถแล้ว การยอมรับตนเช่นที่ตนเป็น ขอเพียงแต่รักตนเองอย่างจริงใจ ไม่ว่าจะมีข้อดีข้อเสียเช่นไร คือสิ่งสำคัญยิ่งอีกประการหนึ่ง อันเปรียบเสมือนอาวุธคมกล้าที่ตัดผ่านทุกม่านหมอกซึ่งบดบังดวงตาแห่งปัญญา ด้วยว่านั่นคือสิ่งจำเป็นยิ่งสำหรับผู้ปวารณาตนเป็นนักรบผู้ติดดาบแห่งปัญญา เพื่อแทงรากหยั่งลึกลงสู่จิตวิญญาณของตน
        
            เพราะตราบใดที่คุณยังมิอาจเคารพตนเองอย่างสัตย์ซื่อ ตราบนั้น วิถีแห่งนักรบผู้องอาจ ผู้ก้าวย่างอย่างมั่นคงบนหนทางแห่งการตระหนักรู้ต่อทุกผัสสะอย่างซื่อตรงและเปิดเผย ย่อมไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย
       
        
            เราทุกคนสามารถเป็นนักรบผู้องอาจ มุ่งมั่น หยัดยืน แกร่งกล้า ในขณะเดียวกัน ก็คงไว้ซึ่งความเบิกบานและถ่อมตน นักรบที่แท้มิจำเป็นต้องดุดัน กราดเกรี้ยว นั่นเพราะเขามิได้เข่นฆ่า รบรากับผู้ใดในสมรภูมิ หากทว่า…ผู้ที่เขารบราด้วย คือ "ตนเอง" เพราะเช่นนี้ นักรบจึงต้องติดอาวุธแหลมคมให้ดวงตาภายใน ก่อนฝ่าฝุ่นอันตลบคละคลุ้งเพื่อก้าวเข้าถึงแก่นกลางความเป็นตัวตนอันแท้จริง เพื่อมองให้เห็น หาให้พบ เพื่อทำความรู้จัก เพื่อยอมรับ เพื่อรักตนเองเช่นที่ตนเป็น ไม่ฝืน ไม่ต่อต้าน ไม่ดึงดัน ไม่หลอกลวง
       
        
            มิใช่เพื่อชัยชนะที่บังเกิดขึ้นจากการหักหาญ หากคือการก้าวพ้นขึ้นเหนือความขึ้น-ลง ยืนอยู่เหนือความผันแปรของ "ความคิด" ที่วิ่งวนไม่หยุดนิ่ง นักรบต้องก้าวพ้นด้วยดวงใจอันผ่อนคลาย ยืดหยุ่น และอ่อนโยน แม้ในห้วงอารมณ์อันโศกเศร้า บอบช้ำ เจ็บปวด หัวใจแหลกสลาย นั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปหรือน่าอาย

       

        
        
            "คุณมิได้รู้สึกเศร้า เพราะว่ามีใครมาดูแคลนหรือรู้สึกด้อยค่า ทว่าประสบการณ์นี้เป็นความเศร้าที่ปราศจากเงื่อนไข มันเกิดขึ้นเพราะว่าดวงใจของคุณได้เปิดออกอย่างหมดจด ไม่มีหนังหรือเนื้อเยื่อปกปิดมันไว้อีกต่อไป มันคือก้อนเนื้อดิบๆ แท้ๆ…
        
            สำหรับนักรบแล้ว ประสบการณ์แห่งดวงใจอันเศร้าอันแสนอ่อนโยนนี้ คือจุดกำเนิดแห่งความไม่หวาดหวั่นไม่ต่อสิ่งใด ตามความหมายสามัญแล้ว ความไม่หวาดหวั่น หมายความว่าคุณไม่กลัว หรือหมายถึงว่า ถ้ามีใครมาทำร้ายคุณ คุณจะตอบโต้กลับ อย่างไรก็ดี เรามิได้กำลังพูดถึงความไม่หวาดหวั่นในระดับของนักสู้ข้างถนน ความไม่หวาดหวั่นที่แท้จริง คือผลอันเกิดจากความอ่อนโยน มันเกิดจากการปล่อยให้โลกหยอกล้อจิตใจของคุณเล่น จิตใจที่ดิบและงดงาม คุณเต็มใจที่จะเปิดมันออก โดยไม่ขัดขืนหรือเขินอาย และเผชิญกับโลก คุณพร้อมที่จะแบ่งปันหัวใจของคุณกับผู้อื่น"
       

        
            เชอเกียม ตุรงปะ ธรรมาจารย์คนสำคัญของพุทธศาสนาสายวัชระยานแห่งทิเบต บันทึกไว้เช่นนั้น ใน SHAMBHALA The Sacred Path of the Warrior ซึ่งได้รับการแปลเป็นภาษาไทยว่า "ชัมบาลา หนทางอันศักดิ์สิทธิ์ของนักรบ" (จัดพิมพ์โดย สนพ.มูลนิธิโกมลคีมทอง แปลโดย พจนา จันทรสันติ)
       
        
            เชอเกียม ตรุงปะ เขียนหนังสือเล่มนี้ไว้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่แม้กระทั่งปัจจุบัน "หนทาง" แห่งการใช้ชีวิตเยี่ยงนักรบผู้ไม่หวาดหวั่น ก็ยังคงก้าวทันยุคสมัย

       

        
        
            นักรบชัมบาลา มิจำต้องจับดาบฟาดฟันผู้ใด ไม่จำเป็นต้องแบกหามมวลมนุษยชาติไว้บนบ่า ไร้ซึ่งอุดมการณ์ ไร้ฝักฝ่าย ไร้เส้นแบ่งแห่งถูก ผิด ดี เลว สูงส่ง สามานย์ เลิศหรู ด้อยค่า วิถีแห่งชัมบาลาก้าวพ้นจาก "คำตัดสิน" แต่ก้าวเข้าไปสัมผัสทุกสิ่งด้วยดวงใจอันเปิดเปลือยและอ่อนโยน ไร้เปลือกห่อหุ้ม ยินดีที่ได้รัก ยินยอมพร้อมรับทุกความเจ็บปวดในชีวิต และน้อมรับทุกความจริงแท้ของสรรพสิ่ง
       
        
            ทว่า การเปิดเปลือยที่แลคล้ายเริงร่ายอย่างเสรีนั้น มิได้ดำเนินไปอย่างไร้การควบคุม หากก้าวย่างอยู่บนหนทางอันพึงตระหนักรู้และรับผิดชอบชีวิตอยู่ทุกขณะของลมหายใจ
       
        
            ในขณะเดียวกัน นักรบที่แท้ย่อมดำรงอยู่ได้ในจิตวิญญาณของชนทุกผู้นาม ไม่ว่าเขาผู้นั้นจักเป็นประธานาธิบดี มหาเศรษฐี คนกวาดขยะ คนนวดแป้ง คนทำขนมปัง ไม่ว่ากระทำสิ่งใด ดำรงอยู่ในสถานะสูงส่ง ต่ำเตี้ย หรือแตกต่างตามบรรทัดฐานสังคมสักเพียงไร ตราบเมื่อพวกเขา "ไม่หนี" แต่ยอมเผชิญกับงานตรงหน้า แม้ในยามเบื่อหน่าย เหนื่อยล้าอ่อนแรง มิพักต้องเอ่ยถึงอุปสรรคปัญหานานาที่เข้ามาปะทะโดยมิคาดคิดอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

       

        
        
            เช่นนี้แล้ว ผู้ใดจักกล้าปฏิเสธ ว่าคนขุดลอกคลอง หรือคนเก็บกวาดสิ่งปฏิกูล มิอาจเป็นนักรบผู้ครอบครองซึ่งจิตวิญญาณอันเต็มเปี่ยม หากเขาผู้นั้นยืนหยัดอย่างองอาจ พร้อมปะทะกับปัญหาตรงหน้าอย่างปรกติ ธรรมดา รับมือด้วยความหนักแน่น เยือกเย็น
       
            …ดุจการร่ายรำอย่างเริงร่าด้วยท่วงท่าอันสามัญ
       
                        
                           ................
        
                      ตัวหนอนบนกองหนังสือ
       
        
http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9520000044814


Rediscover Hotmail®: Now available on your iPhone or BlackBerry Check it out.