วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

เครื่องแขวนดอกไม้สด…งามวิจิตรไร้กาลเวลา

เครื่องแขวนดอกไม้สด…งามวิจิตรไร้กาลเวลา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2552 19:30 น.
ประเทศไทยเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทำให้ประเทศของเรามีพรรณไม้ที่สวยงามหลายชนิด ผนวกกับแนวความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ที่ชอบประดิษฐ์ประดอยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ก่อให้เกิดงานหัตถศิลป์อันปราณีตมากมายหลายแขนง หนึ่งในนั้นคือ งานเครื่องดอกไม้ ซึ่งเป็นศิลปะที่มีความละเอียดอ่อน ต้องใช้ความอดทนในการทำสูง
       
       จากหลักฐานทางโบราณคดีตามโบราณสถานต่างๆ ในแถบทวีปเอเชีย ชี้ให้เห็นว่า ชาติพันธุ์แถบนี้ มีการนำดอกไม้มาประดับเคหะสถานตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ สังเกตจากศาสนสถาน พระราชวัง และบ้านคหบดี ที่มีการทำเป็นลายปูนปั้นเป็นรูปเฟื้องดอกไม้ลายต่างๆ
       
       จากการสันนิษฐานเชื่อว่า คนในสมัยก่อนจะนำดอกไม้มาประดับบ้านเรือน แต่ด้วยดอกไม้มีอายุการใช้งานที่สั้น ทำให้เกิดภูมิปัญญาที่ล้อเลียนของจริง ส่งผลให้เกิดลายปูนปั้นเป็นรูปดอกไม้ต่างๆ อาทิ ทับหลังของปราสาทในเขมร ลายปูนปั้นในพระราชวังในอินเดีย ลวดลายสถูปเจดีย์ในวัดพระเชตุพลวิมลคลาราม เป็นต้น
       
       งานเครื่องแขวนดอกไม้สด เป็นงานประดิษฐ์ที่ทำขึ้นเพื่อใช้ในการประดับตกแต่งอาคาร สถานที่ และสิ่งเคารพบูชา มีรูปร่างเป็นช่อเป็นพวงที่รังสรรค์ขึ้นจากการนำดอกไม้เล็กๆ มาเรียงร้อยรวมกันด้วยเส้นด้าย ประดิษฐ์เป็นเส้น ลาย เป็นตาข่ายรูปต่างๆ ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ แบบสองมิติ และแบบสามมิติ
       

       แบบสองมิติ เป็นแบบของเครื่องแขวนที่มีลักษณะแบน มองได้ทั้ง 2 ด้าน เช่น แบบตาข่ายหน้าช้าง แบบบันไดแก้ว แบบวิมานแท่น เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้แขวนบริเวณหน้าต่างที่มีลมผ่าน เมื่อลมพัดเข้ามาในเคหะสถานที่ประดับด้วยเครื่องแขวนนี้ ก็จะอบอวลเป็นด้วยกลิ่นดอกไม้ที่แขวนอยู่ไปด้วย ผู้อยู่อาศัยก็เกิดความจรุงใจกับดอกไม้ไปด้วย
       
       แบบสามมิติ คือ แบบที่สามารถมองได้รอบทิศทาง เช่น แบบกลิ่นคว่ำ แบบพวงแก้ว แบบพู่กลิ่น แบบระย้าทรงเครื่อง เป็นต้น งานประดิษฐ์แบบนี้จะใช้แขวนประดับภายในบ้าน เพื่อให้เกิดความสวยงามต่อผู้ที่มาพบเห็น
       
       เครื่องแขวนดอกไม้สดเป็นงานศิลป์ที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่งานศิลปะแขนงนี้ก็ต้องเสื่อมถอยไปเมื่อคราวเสียกรุงเป็นครั้งที่ 2 จากนั้นจึงเริ่มถูกฟื้นฟูอีกครั้งเมื่อเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ บุคคลสำคัญในวงการช่างดอกไม้ในยุคนั้น คือ เจ้าจอมมารดาตานี ธิดาเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค) เจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้มีฝีมือเชิงช่างดอกไม้
       
       ซึ่งนอกจากจะถวายงานในด้านที่ตนถนัดแล้ว ท่านยังได้ฝึกหัดและถ่ายทอดวิชาแก่พระธิดาและพระนัดดา ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฉัตร กรมหมื่นสุรินทรรักษ์ ให้เป็นช่างดอกไม้สืบวิชาต่อมาจนกระทั่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว
       
       รูปแบบของเครื่องแขวนดอกไม้สด ได้รับการพัฒนามาตามยุคสมัย โดยเฉพาะช่วงที่ประเทศของเรามีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติมากขึ้น รูปแบบวัฒนธรรมที่มาพร้อมกับชาวต่างชาติก็ส่งอิทธิพลต่อชาวสยามในยุคนั้นอยู่ไม่น้อย
       
       ทำให้เครื่องแขวนดอกไม้สดเริ่มมีการปรับรูปแบบให้เข้ากับสมันนิยมมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น แบบของโคมจีน แบบโคมไฟแบบยุโรป เป็นต้น เครื่องพวงดอกไม้แขวนจึงมาการผสมทางวัฒนธรรมเป็นด้วย
       
       จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ภูมิปัญญาในวิชาเชิงช่างของไทยล้วนมีบ่อเกิดมาจากราชสำนัก เรียกได้ว่า "ความเจริญรุ่งเรืองของงานช่างไทยมีบ่อเกิดจากในราชสำนัก" อันเนื่องมาจากในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีสมาชิกในพระราชวงศ์เป็นฝ่ายในจำนวนมาก
       
       ซึ่งแต่ละตำหนักก็จะมีบาทบริจาริกา (ข้ารับใช้) คอยถวายงาน ใน พระบรมมหาราชวังจึงเป็นเสมือนชุมชนอีกชุมชนหนึ่งก็ว่าได้ เจ้านายฝ่ายในก็มุ่งที่จะประดิษฐ์งานดอกไม้ไปถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระแก้วมรกต หรือประดับตามพระที่นั่งองค์ต่างๆ
       
       จวบจนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว งานประดิษฐ์ดอกไม้สดได้รับความนิยมและเจริญอย่างสูงสุด ดังจะเห็นได้จาก เมื่อมีพระราชพิธีต่างๆ ก็จะมีการจัดประกวดฝีมือทำเครื่องแขวนกันเป็นกิจจะลักษณะ
       
       โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ์ พระเชษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว ทรงมีพระปรีชาในการดิษฐ์เครื่องแขวนดอกไม้สดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมีงานสำคัญก็จะทรงประดิษฐ์ดอกไม้ไปประดับตามงานนั้นๆ
       
       งานเครื่องแขวนดอกไม้สด เป็นหัตถศิลป์อันวิจิตรของไทย เป็นศิลป์อีกแขนงหนึ่ง ที่เชิดหน้าชูตาของแผ่นดิน ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในหัตถศิลป์อันทรงคุณค่า ที่ได้บ่มเพาะภูมิปัญญามาอย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น
       
       จวบจนถึงยุคปัจจุบัน ความงดงามข้างต้น ก็ยังคงปรากฏให้คนรุ่นหลังได้พบเห็นและชื่นชมอยู่ไม่ขาด สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่ไทยปีนี้ ความงดงามของเครื่องแขวนในรูปแบบต่างๆ จะยังคงปรากฏให้เราได้สัมผัสถึงความงดงามอันวิจิตบรรจงกันอีกครั้งในงาน นิทรรศการเครื่องดอกไม้พวงแขวน ณ เมนอารีน่า ชั้นที่ 1 ห้างสรรพสินค้าเซน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 27 เม.ย.52


     
กลิ่นตะแคง กลิ่นจระเข้ กลิ่นคว่ำ
     
โคมจีน วิมานแท่น ระย้าน้อย
     
ระย้าทรงเครื่อง พู่กลิ่น พวงแก้ว
     
บันไดแก้ว ตาข่ายหน้าช้าง ฉัตรเก้าชั้น
   
http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9520000041612


Windows Live™ Hotmail®:…more than just e-mail. Check it out.