วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สุขภาพ-ความงาม "กระแส"ผู้หญิงไทย

วันที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6795 ข่าวสดรายวัน


สุขภาพ-ความงาม "กระแส"ผู้หญิงไทย




บริษัท รักลูกกรุ๊ป ในส่วนงาน Women Business จัดงานเสวนาภายใต้ชื่อ ผู้หญิง ความเชื่อ และสุขภาพ โดยเล็งเห็นว่าสังคมไทย แม่ หรือ ผู้หญิง เป็นผู้ที่มีบทบาทสูงในเรื่องการดูแลสุขภาพตนเอง และสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว รวมไปถึงการอบรมกล่อมเกลาสมาชิกรุ่นใหม่ๆ ทั้งการทำมาหากิน การทำความเข้าใจกับความเชื่อ ซึ่งวิธีคิดของแม่ หรือผู้หญิง น่าจะมีส่วนช่วยให้เกิดความเข้าใจให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น ที่ห้องประชุมกัลยาณมิตร บริษัท รักลูกกรุ๊ป

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ วิเคราะห์ความเชื่อเกี่ยวกับระบบสุขภาพของสังคมไทยว่า การดูแลสุขภาพเป็นกระแส หรือวัฒนธรรมค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในชนชั้นกลางที่สนใจสุขภาพตนเอง ลูก และคนในครอบ ครัว พร้อมลงทุนทั้งเงิน เวลา และการศึกษา อีกทั้งยังใช้เป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกชนชั้นได้อีกด้วย จนกลายป็นวัฒนธรรมของชนชั้น หากใครดูแลสุขภาพดีจะได้รับการยกย่องให้เหนือกว่าคนที่ไม่ได้ดูแลสุขภาพ

ผู้ที่ไม่ได้เป็นคนชั้นกลาง แต่ได้รับการสื่อสารผ่านโทรทัศน์ ก็จะรับเอาวัฒนธรรมเหล่านี้เข้ามาได้เช่นกัน จึงทำให้เรื่องสุขภาพเป็นการตลาดที่ใหญ่ มียาทำให้ไม่เจ็บ ไม่ตายจำนวนมาก ถ้าพูดให้เป็น ก็ขายได้

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ / รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม

สุภาวดี หาญเมธี / น.พ.อุดม เพชรสังหาร



"ประเทศไทยเป็นประเทศที่จัดการสุขภาพตนเองที่แย่มาก ทำให้มีความเสี่ยงด้านสุขภาพสูง ผู้หญิงต้องมองให้ลึกมากในด้านสุขภาพ เพราะสุขภาพในความหมายของความงาม จะมีมากกว่าผู้ชาย สื่อในปัจจุบันเป็นเหยื่อของวัฒนธรรมที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งที่ครอบงำคนในปัจจุบัน"

รศ.ยืน ภู่วรวรรณ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2539 ปัจจุบันเป็นรองอธิการบดี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ แห่งภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มองว่า ปัจจุบันวิทยาศาสตร์การเรียนรู้มีความเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าเดิม กลายเป็นการสื่อสารในสังคมแบบใหม่ ขยายตัวเร็วแบบไร้ขอบเขต ทำให้การสื่อสาร อาทิ การส่งคลิปเกิดการกระจายตัวแบบไร้ทิศทาง วิธีเหล่านี้ทำให้สื่อมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต โดยเฉพาะเมื่อสังคมไทยมีวัฒนธรรมที่สนใจแต่ตนเอง (mono culture) มีความเป็นปัจเจกสูง ส่งผลให้ความเชื่อหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป อาทิ การมีสุขภาพที่ดีถูกตีความว่าหมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น

รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ มานุษย วิทยาและโบราณคดี กล่าวว่า ความเชื่อในสังคมไทยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติเรื่องความงามของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง หรือสุขภาพคือความงาม ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อต่างๆ อย่างรวดเร็ว จนเกิดเป็นความเชื่อที่ว่าสุขภาพที่ดีต้องได้รับการยอมรับในสังคมและมีภาพลักษณ์ภายนอกที่ดีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กระแสวัฒน ธรรมที่สนใจแต่งตนเองกำลังถูกย้อนกลับ มีการให้ความสนใจกับการแพทย์พื้นถิ่นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่มีคนชนชั้นกลางฟังเทศน์ฟังธรรมมากขึ้น หรือชาวชนบทที่ยังคงนับถือผีฟ้า เพราะเชื่อว่าจะคุ้มครองให้หายจากโรคได้


น.พ.อุดม เพชรสังหาร รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายพัฒนาความรู้ บริษัท รักลูกกรุ๊ป กรรมการและเลขานุการเบรน ฟอรัม อธิบายเพิ่มเติมว่า การแพทย์เป็นเรื่องของวัฒนธรรม ที่มีคนกลุ่มหนึ่งผลิต ทดลองจนได้ผล ถ่ายทอดและเรียนรู้ต่อๆ กันมา และการแพทย์พื้นบ้านก็เป็นความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมา ทั้งนี้ความเชื่อที่เป็นวัฒนธรรมหลายเรื่องได้รับการพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ เช่น โรคใหล ตาย หรือการนอนหลับแล้วเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื่องจากหัวใจเต้นผิดปกติ ปรากฏว่ากลุ่มคนที่ทำพิธีตามความเชื่อ ได้แก่ ทาเล็บสีแดง มีอัตราตายน้อยกว่ากลุ่มคนที่ไม่สามารถทำพิธีกรรมตามความเชื่อ นักวิทยาศาสตร์ด้านสมองค้นพบว่ากลไกความเชื่อเกิดจากการทำงานของต่อมใต้สมองด้วย ยิ่งมีความเชื่อมาก ต่อมใต้สมองอมิกดาลา (Amygdala) ซึ่งทำงานเกี่ยวกับความเชื่อจะทำงานได้ดี แล้วเชื่อมโยงไปยังอวัยวะอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ตับ ปอดดีขึ้นไปด้วย อันเป็นเหตุให้ผู้ที่ทำพิธีกรรม ทาเล็บแดง รอดพ้นจากการเสียชีวิตได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ทำพิธีกรรม

สุภาวดี หาญเมธี ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทรักลูกกรุ๊ป กล่าวปิดท้ายว่า ผู้หญิงเข้าสังคมากกว่าผู้ชาย ธรรมชาติสร้างผู้หญิงให้เอาใจใส่คนรอบข้าง ใส่ใจในรายละเอียด แม้จะเป็นรายละเอียดเล็กๆ ผู้หญิงจึงมีบทบาทหลักในการดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัว แต่ผู้หญิงในยุคปัจจุบันจะมีความเชื่อแบบผิดๆ ในเรื่องความสวยความงาม ซึ่งความเป็นจริงผู้หญิงสวยได้ แต่อย่าไปหลงเชื่อการตลาดมากเกินไป เพราะเป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน อีกทั้งทำให้สิ้นเปลืองเงิน เจ็บตัวและเสียเวลา ผู้หญิงควรให้ความสำคัญกับคุณค่าภายในมากกว่า ยิ่งวัยรุ่น พ่อแม่มีส่วนสำคัญ เพราะเป็นแบบอย่าง พ่อแม่เองควรมีสติ ไม่ตกเป็นเหยื่อ


หน้า 25
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNVEEzTURjMU1nPT0=&sectionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB3Tnc9PQ==

--
Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.pdc.go.th
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com