วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552

ชี้ธุรกิจอาหารอนาคตยังใส เกี่ยวเทรนด์รักสุขภาพโตสวนกระแส

ชี้ธุรกิจอาหารอนาคตยังใส เกี่ยวเทรนด์รักสุขภาพโตสวนกระแส

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มีนาคม 2552 12:27 น.



นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร


สถาบันอาหารชี้ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพโตสวนกระแส เผยแนวโน้มกลุ่มลูกค้าเติบโตสูงได้แก่ เด็กเล็ก ผู้ชาย ผู้สูงอายุ และผู้รักสิ่งแวดล้อม แนะห้ามอวดสรรพคุณเกินจริง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะถดถอย แต่สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารคาดว่าจะไม่กระทบมากเหมือนธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากอาหารถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต ประกอบจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้น การขยายตัวของธุรกิจค้าปลีก รวมถึงความรวดเร็วในการกระจายสินค้า ทำให้นักวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกมองตรงกันว่า ตลาดอาหารโลกยังคงขยายตัวได้ดีในปีนี้ (2552) แม้ว่าจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ อย่างมากก็ตาม

ทั้งนี้ มุมมองนักวิเคราะห์และผู้ผลิตอาหารชั้นนำโลก สรุปแนวโน้มผลิตภัณฑ์อาหารที่มีอนาคตในปีนี้ ประกอบด้วยกลุ่มที่เน้นผู้บริโภคเป้าหมาย 4 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1. กลุ่มทารกและเด็กเล็ก โดยเฉพาะการทำตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ เน้นรูปแบบเพิ่มความสะดวกในการบริโภคมากขึ้น 2. กลุ่มผู้ชายรักสุขภาพ ปัจจุบันแนวโน้มผู้ชายหันมาให้ความใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการป้องกันโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โรคหัวใจ และผมร่วง

3. กลุ่มผู้สูงอายุ เป็นกลุ่มประชากรโลกที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว อีกทั้ง เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ต้องการอาหารป้องกันโรคมากกว่าบริโภคยา และ 4. กลุ่มผู้รักสิ่งแวดล้อม มีผู้บริโภคจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ชั้นนำของโลกต้องเริ่มตอบสนองความต้องการด้วยการเพิ่มขอบเขตการคัดเลือกสินค้าเข้าสู่ชั้นวางสินค้า

นายยุทธศักดิ์ เผยต่อว่า อีกแนวโน้มที่น่าสนใจ ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายๆ ด้านใน 1 ผลิตภัณฑ์ และหากมีผลงานวิจัยทางวิชาการรับรองจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ โดยรวมแนวโน้มอาหารโลกจะเน้นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทำให้ปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพออกสู่ตลาดมากมาย โดยสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการห้ามมองข้าม คือ จรรยาบรรณในการผลิต ไม่ควรนำเสนอข้อมูลสรรพคุณเพื่อสุขภาพเกินจริง เพราะผู้บริโภคจะคาดหวังสูง และเข้าใจผิดในการซื้อมารับประทาน ซึ่งจะเกิดผลเสียแก่ตลาดอาหารเพื่อสุขภาพแทนที่จะเติบโตในระยะยาว จะกลายเป็นโตรุนแรงแล้วตายไปอย่างรวดเร็ว

http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9520000029822