ครบ 20 ปี WWW ปฏิวัติโลก เตือนรัฐอย่าละเมิดสิทธิ พลเมืองเน็ต!

ครบ 20 ปี WWW ปฏิวัติโลก เตือนรัฐอย่าละเมิดสิทธิ พลเมืองเน็ต!

ครบ20ปี "WWW"ปฏิวัติโลก เตือน"รัฐ"อย่าละเมิดสิทธิ "พลเมืองเน็ต!"
Source - เว็บไซต์ข่าวสด (Th)

Tuesday, March 17, 2009 04:49


นวัตกรรม "WWW" ซึ่งนำพาคนทั่วโลกสื่อสารกันผ่านเครือข่าย "อินเตอร์เน็ต" มีอายุครบ 20 ปีเมื่อวันศุกร์ 13 มีนาคม และผู้ให้กำเนิดเทคโนโลยีปฏิวัติโลกชิ้นนี้พยากรณ์ว่า ในอนาคต "WWW" จะทำให้มนุษย์ตื่นตะลึงยิ่งขึ้นไปอีก!


"โลกแห่งเว็บยังไม่ถึงจุดสมบูรณ์ สิ่งที่เราเห็นในปัจจุบันเป็นแค่ส่วนปลายสุดของภูเขาน้ำ แข็ง ความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ จะมาเขย่าโลกให้สั่นสะเทือนยิ่งขึ้นกว่าเดิม"


เซอร์ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี วิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษ ผู้ให้กำเนิดระบบ "เวิลด์ไวด์เว็บ" (World Wide Web : WWW) แถลงต่อที่ประชุมเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 20 ปีการคิดค้น WWW ในสถาบันวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อ "เซิร์น"


ทิม พยากรณ์ว่า ในอนาคตอันใกล้ คอมพิวเตอร์จะมีความสามารถถึงขั้นประมวลผลกระบวนการติด ต่อสื่อสาร-สืบค้นข้อมูลต่างๆ ที่บรรจุอยู่ในเว็บไซต์อินเตอร์เน็ตด้วยตัวเอง โดยที่มนุษย์ หรือผู้ใช้ไม่ต้องมานั่งคัดแยกกลั่นกรองข้อมูลเอง


ระบบดังกล่าวเรียกว่า "Semantic Web" ซึ่งเป็นวิวัฒนาการขั้นที่ 2 ของ WWW


และกลุ่มคนที่กำลังขับเคลื่อนความฝันดังกล่าวให้กลายเป็นจริง คือ องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีโครงข่ายอินเตอร์เน็ต "W3C" ที่มีทิมนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการ


ณ ขณะนี้ทั่วโลกมีเว็บไซต์ 80 ล้านเว็บ


แยกออกมาเป็น "หน้าเว็บไซต์" แต่ละหน้า หรือ เว็บเพจ จำนวนมหาศาลกว่าพันล้านเว็บเพจ


สถิติผู้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตมีสูงกว่านับร้อยล้านคน และเพิ่มขึ้นทุกขณะ


ทิมเชื่อว่าจุดเปลี่ยนสำคัญจะมาถึงเมื่ออินเตอร์เน็ตทะลุทะลวงเข้าไปปรากฏอยู่บน "โทรศัพท์มือถือ" ราคาถูกทั่วๆ ไปตามท้องตลาด


เนื่องจากจะเปิดทางให้ประชากรในกลุ่ม "ประ เทศกำลังพัฒนา" มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีประเภทนี้


อย่างไรก็ตาม จุดที่ต้องระมัดระวังก็คือ การขยายตัวของสังคมอินเตอร์เน็ตจะทำให้ภาครัฐ หรือภาคเอกชนใช้ช่องโหว่ด้านกฎหมาย ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเข้า มาคอยสอดส่องดูพฤติกรรมการใช้อินเตอร์เน็ตของประ ชาชน!


ระบบ WWW ถือกำเนิดช่วงปีพ.ศ.2532 ขณะทิมมีอายุ 29 ปี ทำหน้าที่ออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประจำสถาบันวิจัยเซิร์น นครเจนีวา


ในห้วงเวลาดังกล่าวเซิร์นเพิ่งเริ่มต้นวางรากฐานโครงการใหญ่ ชื่อ "เครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่" (แอลเอชซี) เพื่อค้น หาคำตอบว่าจักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร


สำหรับคนที่ติดตามข่าววิทยาการน่าจะยังพอจำได้ว่า เครื่อง แอลเอชซีที่ว่านี้เพิ่งทดลองเดินเครื่องเป็นทางการไปเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มกลัว ว่าจะทำให้เกิด "หลุมดำจิ๋ว" ดูดกลืนทุกอย่างในโลกนั่นเอง!


เนื่องจากข้อมูลงานวิจัยแอลเอชซีสลับซับซ้อน มีจำนวนมาก ต้องการการประสานงานจากนักวิทยา ศาสตร์หลายสถาบันทั่วโลก ในที่สุดทิมจึงเสนอกับ "ไมก์ เซนดอล" หัวหน้างานขณะนั้นว่าควรออก แบบระบบแลกเปลี่ยน-จัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เพื่อให้ทำงานคล่องตัวสะดวกรวดเร็ว


วันที่ 13 มีนาคม 2532 ทิมส่งรายงานการพัฒนา และเริ่มเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับ WWW ให้เซิร์น และได้รับการอนุมัติ ทั้งที่ไมก์ยัง "งงๆ" กับแนวคิดนี้ แต่ยอมรับว่า "ยังไม่ชัดเจน...แต่น่าตื่นเต้นมาก!"


อีกปีเศษๆ ต่อมาระบบก็เสร็จสมบูรณ์ โดยทิมตั้งชื่อว่า "World Wide Web" หมายถึงเครือข่ายคอม พิวเตอร์ที่ถักทอเข้าด้วยกันเหมือนใยแมงมุม ผู้ใช้งานสามารถกดดูข้อมูลผ่านจุด "ไฮเปอร์เท็กซ์" (ตัวหนาหรือตัวขีดเส้นใต้บนหน้าเว็บ) ที่กำหนดขึ้น ทำ ให้เรียกดูเอกสารจากเครือข่ายอื่น หรือจากจุดใดก็ได้โดยไม่ต้องเรียงตามลำดับ


ปี 2534 เซิร์นเปิดใช้เว็บไซต์ภายใต้ระบบ WWW อย่างเป็นทางการและไม่มีการจดสิทธิบัตร เปิดให้ชาว โลกนำไปพัฒนาต่อยอดฟรีๆ จากนั้นประวัติศาสตร์โลกก็เปลี่ยนไป ตัวอักษรภาษาอังกฤษขนาดเล็กๆ 3 ตัว WWW ไปปรากฏอยู่หน้าชื่อเว็บทั่วโลก


ขณะที่ไฮเปอร์เท็กซ์ ทั้งในรูปแบบตัวอักษรและ ภาพกราฟิกได้กลายเป็นยาสามัญประจำบ้าน สำหรับ ทุกเว็บไซต์เช่นในปัจจุบัน!


ประวัติย่อของ"อินเตอร์เน็ต"


ปี 2512 : กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ก่อตั้งสำนักงาน "อาร์ปา" เชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหว่างสถาบันวิจัย หน่วยงานรัฐบาล และมหา วิทยาลัยทั่วสหรัฐเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการทหาร รับมือความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอวกาศของโซเวียต เรียกว่าเครือข่ายอาร์ปาเน็ต ต่อมาพัฒนากลายเป็นอินเตอร์เน็ต


ปี 2515 : เรย์ ทอมลินสัน วิศวกรคอมพิวเตอร์สหรัฐ พัฒนาและเปิดตัวระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์)


ปี 2516 : มีการพัฒนาระบบ "TCP/IP" ขึ้นมาใช้เป็นมาตรฐานการสื่อ สารระหว่างคอมพิวเตอร์ผ่านอินเตอร์เน็ต


ปี 2519 : จิมมี่ คาร์เตอร์ เป็นผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ใช้ อีเมล์หาเสียง, ราชินีอลิซาเบธแห่งอังกฤษ เป็นประมุขแห่งรัฐคนแรกของโลกที่เขียนและส่งอีเมล์


ปี 2525 : บัญญัติศัพท์ "อินเตอร์เน็ต" อย่างเป็นทางการ


ปี 2526 : เริ่มใช้ระบบโดเมนเนมแบ่งแยกลักษณะเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น .com (ธุรกิจ), .org (องค์กร), .edu (การศึกษา) ขณะที่ "วิลเลียม กิ๊บสัน" นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐ บัญญัติศัพท์คำว่า "ไซเบอร์สเปซ" หรือ "โลกไซเบอร์"


ปี 2532 : ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ สถาบัน เซิร์น ทวีปยุโรป เผยแนวคิดการพัฒนาระบบรวบรวม-กระจาย-จัดเก็บและ แลกเปลี่ยนข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตชนิดใหม่ เรียกว่า "เวิลด์ไวด์เว็บ" (World Wide Web : WWW) การเชื่อมต่อเอกสารวิชาการต่างๆ ทำโดยการกดที่ตัว "ไฮเปอร์เท็กซ์" หรือคำสำคัญในการเชื่อมโยงเอกสาร ซึ่งแสดงผลในรูป แบบตัวหนาหรือตัวขีดเส้นใต้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นปฏิวัติระบบการใช้งานอิน เตอร์เน็ตครั้งสำคัญกระทั่งแพร่หลายไปทั่วโลก


ปี 2534 : ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี เขียนและเปิดตัว "เว็บไซต์" ในอินเตอร์เน็ตที่รองรับระบบ WWW เป็นครั้งแรก


ปี 2537 : โปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ต "เน็ตสเคป" เปิดให้บริการ


ปี 2538 : บริษัทอเมริกาออนไลน์ (เอโอแอล) เปิดให้บริการต่ออินเตอร์เน็ตผ่านระบบโทรศัพท์บ้าน, ไมโครซอฟท์เปิดตัวโปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ต "ไออี" และโค่นเน็ตสเคปได้ในเวลาต่อมา


ปี 2540 : บัญญัติศัพท์ "เว็บล็อก" หรือ "บล็อก" ใช้เรียกเว็บไซต์ที่เขียนบันทึกเรื่องราวความสนใจเฉพาะด้าน


ปี 2541 : "กูเกิ้ล" เว็บไซต์สืบค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตหมายเลข 1 ของ โลก เปิดสำนักงานแรกในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ


ปี 2542 : กระแสอี-คอมเมิร์ซ (พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) เริ่มแพร่หลาย, กำเนิด "แน็ปสเตอร์" เว็บไซต์แลกเปลี่ยนไฟล์เพลงฟรีแห่งแรก ซึ่งสั่นสะเทือนธุรกิจเพลงทั่วโลก


ปี 2544 : เปิดตัวเว็บไซต์สารานุกรมออนไลน์อันดับ 1 ที่ให้ผู้ใช้ช่วยกันนำเสนอและแก้ไขข้อมูล "วิกิพีเดีย ดอต คอม"


ปี 2548 : เปิดตัว "ยูทูบ" เว็บวิดีโอแชร์ริ่งชื่อดัง


ปี 2552 : ครบรอบ 20 ปี ระบบ WWW


ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod
วันที่ 17 มีนาคม 2552
http://www.nhrc.or.th/news.php?news_id=4917