Partnering พลังผนึกช่างผม+ลูกค้า งามหมดจด ศีรษะจรดปลายเท้า ! |
โดย แดงส์ ตักสิลา | 15 มิถุนายน 2552 13:26 น. |
|
fashionhora@gmail.com
| เส้นผมมีชีวิตคนเดียวไม่ได้ ! เวลามีคนมาเรียนแฟชั่นดีไซน์สไตล์ตักส์ศิลา ต้องการเรียนรู้แค่การออกแบบเสื้อผ้า แต่ผมกลับเริ่มต้นสอนให้เขามองภาพรวมศีรษะจรดเท้า และย้ำว่าเสื้อผ้าไม่ได้อยู่บนไม้แขวน แต่มันอยู่บนเรือนร่างของลูกค้า เคลื่อนไหวไปพร้อมๆ กับทุกส่วนที่รวมเป็นภาพรวมสะท้อนภาพลักษณ์ตัวตนลูกค้า ดังนั้นจะเรียนแฟชั่นดีไซน์กับตักส์ศิลา ต้องเข้าใจองค์ประกอบ 4+1 ของสไตล์แฟชั่นเสียก่อน ทบทวนสักนิด สำหรับผู้ที่อาจลืม หรือเพิ่งเข้ามาอ่าน แฟชั่นคือ การแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกาย ที่ทุกคนคุ้นเคยและผูกพัน ได้แก่ 1. ทรงผม-หน้าตา (HM: Hairstyle & Make Up) 2. เสื้อผ้าชั้นในและชั้นนอก (CH: Clothes >Inner & Outer Wear) 3. รองเท้าและกระเป๋าถือ (SB: Shoes & Bags) 4. เครื่องประดับและกลิ่นกาย (AC: Accessories) 5. สุขภาพ อนามัย (HW: Health & Well Being) ผมจะไม่อธิบายรายละเอียดว่าคืออะไร แต่อยากให้มองเป็นภาพรวม (Total Look) ว่าเราเต็มตัวจากกระจกเงาที่ส่องได้เต็มตัวเช่นไร ลูกค้าก็เห็นตัวตนในภาพรวมหลังแต่งกายด้วยองค์ประกอบดังกล่าวเช่นกัน ช่างผมส่วนใหญ่มีกระจกเงาให้ลูกค้ามองเห็นเฉพาะส่วนบน ช่างเสื้อจะมีห้องลอง หรือมีกระจกเงาที่ส่องเห็นเต็มตัว เวลาให้ลูกค้าลองเสื้อผ้า และก็แปลกมากครับ ด้วยประสบการณ์ที่ผมเป็นลูกค้าช่างผม และผมก็เคยเป็นลูกค้าช่างตัดเสื้อ เวลาทำผมเสร็จ มองเห็นตัวเราเฉพาะส่วนศีรษะว่าดูดี หล่อ สวย น่ารัก ระดับใดเท่านั้น เวลาไปลองเสื้อ โดยเฉพาะตามห้องเสื้อ ในห้างสรรพสินค้า ช่างเสื้อ หรือพนักงานขาย (P.C.) ก็จะมองเราเฉพาะบนเสื้อผ้าเช่นกัน
| บริหารความสำคัญสไตล์ใหม่ของเส้นผม และเสื้อผ้าให้มีพลังเกี่ยวเนื่องผมเห็นคนหลายคนเปลี่ยนสไตล์เส้นสายลายเส้นผม ด้วยลีลาแห่งพลังชีวิตเส้นผมสไตล์ล่าสุด ทั้งเป็นคนเลือกเอง ช่างผมเลือกให้ หรือนำค่านิยมไปหาช่างผม พอเปลี่ยนสไตล์เส้นผม ซึ่งอาจดูแรง แปลกตา แต่ยังคงใส่เสื้อผ้าแนวเดิม ที่มากับทรงผมเดิมก่อนเปลี่ยน หรือไม่ก็ไปเปลี่ยนสไตล์ที่ดูเยอะ ดูแรงตามสไตล์ผม ที่อาจทั้งทำสีแรงๆ หรือไฮไลท์เป็นจุดๆ ดูขัดๆ ตากันพอควร ขณะเดียวกันก็มีคนเปลี่ยนสไตล์การแต่งกายด้วยแฟชั่นล่าสุดเช่นกัน อาจเลือกเอง มีคนแนะนำ มีดีไซเนอร์ออกแบบให้ หรือเลือกตามค่านิยมกลุ่ม บ่อยครั้งที่เสื้อผ้าเปลี่ยนแนวแล้ว แต่ส่วนอื่นยังหยุดอยู่กับที่ ตั้งแต่รองเท้า กระเป๋าถือ เครื่องประดับ และสุดท้ายคือ สไตล์เส้นผม นั่นคือ เหตุปัจจัยที่ทำให้การเรียนการสอนด้านแฟชั่นดีไซน์สไตล์ตักส์ศิลาของผม จึงเน้นให้ผู้เรียนรู้ ต้องเข้าใจภาพรวม และเป็นที่มาของการคิดค้น HEP Lifecode หรือรหัสพลังตัวตน ซึ่งมีกลุ่มอักขระรหัส 6 กลุ่มมาเป็นเครื่องมือจัดรหัสภาพ (HEP Encoding) หรือถอดรหัสภาพ (HEP Decoding) แตกต่างอย่างมีตัวตนได้อย่างไร ? ครั้งนี้จึงอยากนำเอา 1 ในกลุ่มอักขระรหัสมาแนะนำเป็นเทคนิคง่ายๆ ให้ช่างผมนำเอาไปใช้ประโยชน์ ทั้งการประเมินภาพรวมตนเอง หรือประเมินภาพรวมลูกค้า และเป็นลูกเล่นในการแนะนำลูกค้าได้อีกด้วย เพราะแทนที่ลูกค้าจะได้สไตล์เส้นผมใหม่ แล้วไปผจญภัยกับหลากสไตล์ที่สับสนด้วยตนเอง แต่กลับได้รับคำแนะนำนิดๆ หน่อยๆ จากช่างผมคู่ใจ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความแตกต่างให้ตัวตน อย่างมีเอกลักษณ์ (Independently Unique)
| กลุ่มอักขระรหัสแรกคือ จุดเด่นหลัก (Highlight) มีอักขระ 4 ตัว คือ F D C M F คือ Form หมายถึง รูปทรงโดยรวมของสไตล์เส้นผม D คือ Detail หมายถึง รายละเอียดของเส้นผม อาจเน้นเส้นผมเรียบคม หยักลอน หรือจัดชั้น มีการดัด หรือมีการทำ Texture แปลก C คือ Color หมายถึง สีสันของเส้นผม อาจสีดำตามธรรมชาติ สีสันปรุงแต่ง ทั้งศีรษะ หรือเน้นเป็นสไตล์ไฮไลท์เฉพาะจุด ทั้งสีเดียว หรือจัดคู่สีผสมผสาน M คือ Material หมายถึง คุณภาพของเส้นผม ทั้งเส้นผมที่แข็งแรง เส้นผมที่ต้องการดูแล หรือเทคนิคการเสริมหรือต่อเส้นผม อักขระรหัสนี้ ผมอยากให้ช่างผมพิจารณาว่า สไตล์ที่เลือกให้ลูกค้า คิดว่ามันเด่นที่สุโที่อักขระตัวใด และตัวใดเป็นตัวเสริม และตัวใดเป็นตัวรอง หมายความว่า คงต้องมีจุดเด่นหลักเพียงจุดเดียว รู้ตัวเห็นตัวตนที่แท้จริงของลูกค้าได้อย่างไร ? กลุ่มอักขระรหัสสอง คือ จุดเน้น (Focus) มีอักขระ 5 ตัว คือ HM CH SB AC HW HM คือ Hairstyle & Make Up หมายถึง ต้องพิจารณาว่าลูกค้าเป็นคนให้ความสำคัญในการแต่งกายด้วยจุดเน้นหลัก คือ การมีสไตล์เส้นผมการแต่งหน้าที่พิถีพิถันเป็นจุดเน้นหลัก CH คือ Clothes หมายถึง ต้องพิจารณาว่าลูกค้าอาจให้ความสำคัญต่อการเลือกเสื้อผ้าเป็นหลัก และส่วนอื่นๆ เป็นแค่ส่วนเสริม SB คือ Shoes & Bags หมายถึง มีลูกค้าจำนวนมากที่ให้ความสำคัญในการเน้นด้านการเลือกใส่รองเท้าและถือกระเป๋าที่ดูดี มีราคา และอาจเน้นแบรนด์ดังระดับโลก นอกนั้นจะถือเป็นส่วนประกอบ
| AC คือ Accessories หมายถึง ลูกค้าอาจสนใจแต่งกายด้วยเครื่องประดับมากๆ ทั้งของเทียม ของแท้ ขณะที่ให้จุดอื่นเรียบง่าย HW คือ Health & Well Being หมายถึง ลูกค้าที่อาจสนใจด้านการดูแลรักษาผิวพรรณ รูปร่าง การศัลยกรรมลดส่วนเกิน เสริมส่วนขาด ชอบออกกำลังกาย เล่นโยคะ เล่นกีฬา ซึ่งจะมีสไตล์ในการเลือกส่วนอื่นๆ ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากในการดูแล ถ้าเราเข้าใจในพลังตัวตนจากการกำหนดอักขระรหัสทั้ง 2 ได้ชัด ก็น่าจะทำให้มีแนวทางในการแนะนำให้ลูกค้าแต่งกายให้ดูดี มีพลัง และมีตัวตนเหมาะสมกับสไตล์ล่าสุดของเส้นผม เพื่อสร้างพลังตัวตนให้ดูดีหมดจดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เส้นผมสไตล์แรงจัด ควรเลือกเสื้อผ้าแบบใด ? จากภาพสไตล์เส้นผมที่กำลังมาแรงที่ผมนำภาพมาประกอบ ถือว่าเป็นสไตล์ที่เน้น F ด้วยรูปทรงที่ดูเนี้ยบ เน้น D ที่รูปแบบการตัดแนวกราฟฟิก ส่วนอื่นๆเป็นแค่องค์ประกอบ จะเห็นได้ว่า ด้วยความแรงและเนี้ยบของสไตล์นี้ เป็นโจทย์บังคับให้ลูกค้าต้องดูแลการแต่งหน้าให้เนียน เนี้ยบคม หรือผิวหน้าสะอาดหมดจด เสื้อผ้าต้องเรียบโก้ หรือหากมีรายละเอียดมาก ก็ต้องคุมด้วยโทนสีคลาสสิก กลมกลืน และใช้เนื้อผ้ามีคุณภาพ รองเท้ากระเป๋าถือคงต้องเรียบ ส่วนเครื่องประดับควรเน้นของที่ดูดี มีคุณค่า ไม่โหล (แต่ไม่ได้หมายถึงแพงนะครับ) ท่านที่เพิ่งเข้ามาอ่านอาจงงกับ "รหัสพลังตัวตน หรือ HEP Lifecode" สามารถอ่านนิยามและความหมายได้จากหลายตอนที่ผ่านมา ซึ่งยังคงมีให้อ่านครบถ้วน http://www.manager.co.th/lady/viewnews.aspx?NewsID=9520000067320
| |
Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
See all the ways you can stay connected
to friends and family