วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รู้บุญ รู้ธรรม โดยไม่ต้องฟังเทศน์


วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11456 มติชนรายวัน


รู้บุญ รู้ธรรม โดยไม่ต้องฟังเทศน์


คอลัมน์ สยามประเทศไทย

โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ



ขบวนการเถรตรงชอบคิดแล้วทำอย่างเถรตรง ว่าเมื่ออยากให้เด็กและเยาวชนประพฤติตนอย่างมีศีลธรรม, คุณธรรม, จริยธรรม ก็นิมนต์พระสงฆ์ไปสอนในโรงเรียน หรือมิฉะนั้นก็ให้พานักเรียนไปฟังเทศน์ในวัดทุกวันพระสม่ำเสมอ

คนชั้นนำมีอำนาจของไทยมักชอบอกชอบใจวิธีการนี้ ฉะนั้นจะได้ยินรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องพากันถลันสะแหล็นออกมาพูดจาอวดฉลาดและอวดความมีศีลธรรมจรรยาอย่างนี้เสมอมา ถึงขนาด?ยกวัดเข้าห้าง?ก็มี

ผมไม่เห็นด้วยกับวิธีของขบวนการเถรตรงพวกนี้ แล้วเคยเขียนอธิบายหลายครั้ง พร้อมเสนอให้พานักเรียน?เที่ยววัด? ไม่ใช่ไปใช้หูฟังเทศน์ แต่ใช้ตาฟังธรรมด้วยการเที่ยวดูศิลปกรรมในวัด เช่น พระพุทธรูป, พระประธาน, โบสถ์, วิหาร, การเปรียญ, ช่อฟ้า, ใบระกา, หางหงส์, เสมา, ธรรมาสน์, เมรุ, ฯลฯ จนถึงธรรมชาติรอบวัดและรอบหมู่บ้าน แล้วอธิบายความเกี่ยวดองของคนและชุมชนกับวัด

ฮูบแต้ม ในสิมอีสาน งานศิลป์สองฝั่งโขง โดย สุมาลี เอกชนนิยม สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2548 ราคา 330 บาท

ฮูบแต้ม เกิดจากฝีมือช่างชาวบ้านที่มีอาชีพทำไร่ทำนา มีความรู้น้อย อยู่ในสังคมที่พึ่งพาตนเอง เอาความจริงใจเป็นที่ตั้ง ความรัก ความจริงใจ และความกล้าหาญของช่างแต้ม ได้กลบความรู้สึกที่มีต่อภาพที่ผิดสัดส่วนไปสิ้น

ผู้เขียนจึงปรับผลการศึกษาค้นคว้าอันเป็นส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาศิลปกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาทัศนศิลป์ : ศิลปสมัยใหม่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มาเล่าต่อแก่ผู้อ่านด้วยความหวังว่าเรื่องเล่าที่ผู้เขียนไม่อยากให้ลืมนี้จะช่วยให้ลูกหลานรุ่นหลังที่เคยดูเคยเห็นฮูบแต้ม สามารถอ่านอาเรื่องจากฮูบแต้มได้


แต่มีข้อแม้อย่าพูดคำว่า ศีลธรรม, คุณธรรม, จริยธรรม ออกมาแม้แต่คำเดียว นักเรียนจะได้ยินธรรมเหล่านี้ด้วยตัวเอง

มีข่าวน่ายกย่องสรรเสริญอยู่ในข่าวสด (ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2552 หน้า 28) จะคัดมาให้อ่านดังนี้

มหาสารคาม-นายกิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม เปิดเผยว่า ฮูบแต้มหรือภาพวาดที่ปรากฏตามฝาผนังอุโบสถ หรือสิมอีสาน เป็นผลงานของบรรพบุรุษที่ได้รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพุทธบูชา

เรื่องราวที่นิยมใช้ในการแต้มหรือวาด ส่วนใหญ่จะเป็นนิทานพื้นบ้าน พุทธประวัติ คติธรรม และวิถีชีวิตของคนอีสาน รูปแบบภาพส่วนใหญ่มีลักษณะสวยงาม เรียบง่าย สมถะ สอดคล้องกับการดำรงชีวิตของคนอีสาน

สำหรับในพื้นที่ จ. มหาสารคาม เป็นถิ่นฐานอารยธรรมเก่าแก่ ตามปรากฏมีสิมที่วัดป่าเรไร อ. นาดูน มีฮูบแต้มอายุนับร้อยปี ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ควรค่าแก่การอนุรักษ์ จึงอยากสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนเห็นคุณค่าของฮูบแต้ม

แต่การจะสั่งสอนตักเตือนอย่างตรงไปตรงมาคงยาก จึงให้การสนับสนุนกิจกรรมทางศิลปะมาเป็นเครื่องมือสื่อสาร โดยให้เยาวชนเข้าไปเรียนรู้ประวัติความเป็นมา มีการคัดลอกฮูบแต้ม จะทำให้เยาวชนรู้สึกเพลิดเพลินสนุกสนาน เกิดความรักหวงแหนศิลปวัฒนธรรมฮูบแต้มอีสาน ให้ดำรงอยู่คู่ชุมชนตลอดไป

ขออนุโมทนาแซ่ซ้องสาธุการงานนี้ของนายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคามอย่างสุดจิตสุดใจว่าเป็นวิธีดีงามที่สุดแล้ว สมควรเป็นเยี่ยงอย่างให้สถาบันการศึกษาทั่วประเทศพิจารณาทำบ้าง

ท่านพุทธทาสใช้งานศิลปะหลากหลายเป็นเครื่องมือสื่อสารให้คนเข้าถึงธรรมสำเร็จกว้างขวางมานานแล้ว แต่พวกขบวนการเถรตรงมีกรรมบัง เลยยังเข้าไม่ถึงสิ่งที่พระอาจารย์ท่านพุทธทาสประกาศไว้ ขอให้กลับเนื้อกลับตัว และกลับใจได้แล้ว


หน้า 21

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra03220752&sectionid=0131&day=2009-07-22

 

--
ขอเชิญอ่าน  blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://dbd-52.hi5.com