วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ขอเสนอให้มีการปฏิรูประบบบริการด้านสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ



Please visit blog.Thanks for visiting!
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://www.parent-youth.net
http://www.thaihof.org
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.industry4u.com
http://logistics.dpim.go.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com

--- On Sat, 8/8/09, churdchoo ariyasriwatana <churdchoo@gmail.com> wrote:

From: churdchoo ariyasriwatana <churdchoo@gmail.com>
Subject: ขอเสนอให้มีการปฏิรูประบบบริการด้านสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ
To: abhisit@abhisit.org,   
Date: Saturday, August 8, 2009, 8:19 AM

จดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

8 สิงหาคม 2552

เรื่อง ขอเสนอให้มีการปฏิรูประบบบริการด้านสุขภาพและหลักประกันสุขภาพ

เรียน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

สิ่งที่ส่งมาด้วย บทสรุปผลการสัมมนาและข้อเสนอในการแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข

      จากสิ่งที่ส่งมาด้วยนั้น ท่านจะพบว่าปัญหาในระบบการบริการด้านสุขภาพและระบบหลักประกันสุขภาพนั้นเกิดจากปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และปัญหาจะยังมีมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากประชาชนมีสิทธิ์ในหลักประกันสุขภาพ ทำให้สามารถมารับบริการด้านสุขภาพมากขึ้นเนื่องจากไม่มีภาระค่าใช้จ่าย และประชาชนมีความคาดหวังสูงขึ้น ทำให้มีการฟ้องร้องแพทย์และโรงพยาบาลมากขึ้น ส่วนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขก็ลาออกจากโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีปัญหาการขาดแคลนบุคลากรเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

   เมื่อบุคลากรมีน้อยแต่ประชาชนมารับบริการมากขึ้น ทำให้บุคลากรมีเวลาตรวจรักษาผู้ป่วยเพียงคนละ 2-4 นาที จึงเสี่ยงต่อความผิดพลาด และก่อให้เกิดความเสี่ยงต่ออันตรายของประชาชนในการไปรับบริการดูแลรักษาสุขภาพ ดังที่ปรากฏในสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่อง

  กระทรวงสาธารณสุขได้รับเป็นเจ้าภาพในการจัดสัมมนาเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2551 แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ตามที่มีการสรุปผลการสัมมนา แต่อย่างใดทั้งสิ้น

   ปัญหาการจาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ปัญหาการลาออก และปัญหาการฟ้องร้องก็ยังมีอยู่เช่นเดิม  ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงในการได้รับความเสียหายจากการไปรับบริการจากโรงพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ก็ยังมีจำนวนไม่พอเพียงเช่นเดิม

 

   จึงเรียนเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรี ดำเนินการแก้ไขปัญหาในระบบบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขร่วมกับระบบหลักประกันสุขภาพให้เป็นวาระแห่งชาติ  ดังปรากฎในรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วยทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและป้องกันความเสียหายของประชาชนจากการไปรับบริการทางการแพทย์อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน และพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุขไทยให้ก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน

ขอแสดงความนับถือ

พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนาที่ปรึกษาสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
ที่ปรึกษาสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป