ข่าววันที่ 20 กันยายน 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ | ||||||||
| ||||||||
-- ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much. blog http://sunblog1951.blogspot.com/ sunday http://blogpwd.blogspot.com/ http://newsblog9.blogspot.com/ http://bloghealth99.blogspot.com/ http://labour9.blogspot.com/ http://www.ksmecare.com/docSeminar/520902031848987.pdf http://www-01.ibm.com/software/th/events/lotusliveevent/ http://www.mict4u.net/thai/ http://www.chula.ac.th/visitors/thai/calendar.htm http://www.agkmstou.com/2008/index.php http://www.baanjomyut.com/library/lotus/index.html |
วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ส่วนต่อ "บีทีเอสแบริ่ง"ไร้อนาคต งานระบบไฟฟ้าและอาณัติสัญญาณยังไม่ได้เริ่ม ตามแผนจะต้องเริ่มตั้งแต่ 9 เดือนที่ผ่านมา เพื่อให้เริ่มทดลองวิ่งรถได้เดือนธ.ค.53
วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552
อาการบ่งชี้ตัวที่ 4 ของเส้นเลือดอุดตันในสมอง - อย่าประมาท คุณสามาถช่วยชีวิตคนได้ Blood Clots/Stroke - They Now Have a Fourth Indicator, the Tongue
http://www.parent-youth.net
http://www.thaihof.org
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://ilaw.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://icann-ncuc.ning.com
http://dbd-52.hi5.com
http://www.industry4u.com
http://logistics.dpim.go.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://www.educationatclick.com/th/
From: สุกัญญา นิยมตรุษะ <niyomtrusa2@hotmail.com>
To:
Subject: FW: อาการบ่งชี้ตัวที่ 4 ของเส้นเลือดอุดตันในสมอง - อย่าประมาท คุณสามาถช่วยชีวิตคนได้ Blood Clots/Stroke - They Now Have a Fourth Indicator, the Tongue
From: linglom49@yahoo.com
Subject: อาการบ่งชี้ตัวที่ 4 ของเส้นเลือดอุดตันในสมอง - อย่าประมาท คุณสามาถช่วยชีวิตคนได้ Blood Clots/Stroke - They Now Have a Fourth Indicator, the Tongue
To: niyomtrusa2@hotmail.com
--- On Tue, 9/1/09, Thanee Chanvorachaikul <thanee@cfffoods.com> wrote:
|
วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552
มหันตภัยกล่องโฟม
From: amornrat mitpaibul <amornratnoi@yahoo.com>
Date: ก.ย. 3, 2009 12:19 หลังเที่ยง
Subject: : มหันตภัยกล่องโฟม
To:
--- On Mon, 8/31/09, Doungrat Apichit <doungrat_a@hotmail.com> wrote:
|
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
blog
http://www.parent-youth.net
http://itceoclub.ning.com
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.logex.kmutt.ac.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://icann-ncuc.ning.com
http://www.webmaster.or.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://pwdhutch3.blogspot.com
http://energygreenhealth.com
วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552
ชี้คนแก่วัย 60 ยังอยู่ในภาคแรงงานถึง 37.9% นักวิชาการเสนอแก้ระเบียบ ขยายอายุเกษียณ
วันที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2552 เวลา 18:45:06 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ [อ่านล่าสุด 114 คน]
ชี้คนแก่วัย 60 ยังอยู่ในภาคแรงงานถึง 37.9% นักวิชาการเสนอแก้ระเบียบ ขยายอายุเกษียณ
ผศ.ดร.นงนุช สุนทรเวชกานต์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เผยผลการวิจัยการสร้างโอกาสการทำงานของผู้สูงอายุ สนับ สนุนโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนา ผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า งานวิจัยชิ้นนี้มีเป้าหมายเพื่อศึกษาหาโครงสร้างการทำงานของผู้สูงอายุ รวมทั้งประมาณความต้องการแรงงานในภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่ในตลาดแรงงานได้อย่างเหมาะสมเพื่อนำเสนอเป็น นโยบายต่อรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมายังมีระเบียบ กฎหมายและมาตรการที่ไม่เอื้อกับการจ้างผู้สูงอายุเข้าเป็นแรงงาน โดยเฉพาะในอนาคตที่
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจากการสำรวจสภาวะการทำงานของประชากร ช่วงปี 2551 พบว่า ร้อยละ 37.9 ของจำนวนประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปยังคงอยู่ในกำลังแรงงาน สำหรับผู้สูงอายุที่ไม่อยู่ในกำลังแรงงานนั้น พบว่าร้อยละ 77 ไม่ ต้องการทำงาน หรือไม่สามารถทำงานได้ ส่วนที่เหลือเป็นผู้สูงอายุที่ว่างงานและกำลังหางานทำ โดยในจำนวนผู้สูงอายุทั้งที่อยู่ในกำลังแรงงาน ที่ว่างงานและต้องการทำงานนั้นเป็นผู้สูงอายุเพศชายมากกว่าผู้สูงอายุเพศหญิง คิดเป็นสัดส่วน 60 ต่อ 40
http://thammanamai.blogspot.com
http://sunsangfun.blogspot.com
http://dbd-52hi5com.blogspot.com
http://sundara21.blogspot.com
http://newsnet1951.blogspot.com
http://same111.blogspot.com
http://sea-canoe.blogspot.com
http://seminarsweet.blogspot.com
http://sunsweet09.blogspot.com
http://dbd652.blogspot.com
http://net209.blogspot.com
http://parent-youth.blogspot.com
http://netnine.blogspot.com
http://parent-net.blogspot.com
http://www.educationatclick.com/th
http://www.media4democracy.com/th
ปาร์ตี้ไปกับ Buddy! เติมประกายให้ Messenger ของคุณด้วย emoticons ฟรีๆ คลิกที่นี่เลย
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สธ.เร่งเพิ่มยาสมุนไพรเข้าบัญชียาหลักสามารถเบิกได้ 40 รายการ
สธ.เร่งเพิ่มยาสมุนไพรเข้าบัญชียาหลักสามารถเบิกได้ 40 รายการ
นพ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวหลังการอบรมเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 ตามโครงการพัฒนาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับระบบสวัสดิการรักษาพยาบาล วันที่ 27 สิงหาคม ว่า ก่อนหน้าการรักษาพยาบาลด้านแพทย์แผนไทย มีกระแสว่า ไม่สามารถเบิกตามระบบสวัสดิการข้าราชการได้ ล่าสุด การเบิกจ่ายระบบข้าราชการ มีอัตราคือการฝังเข็ม เบิกได้ครั้งละ 100 บาท การนวดรวมประคบด้วยสมุนไพร เบิกค่ารักษาได้ครั้งละ 250 บาท ไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ การนวดฟื้นฟูรวมประคบสมุนไพร เบิกได้ 250 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 2-5 ครั้งต่อสัปดาห์ การอบสมุนไพร เฉพาะผู้ป่วยหอบหืดและหวัด เบิกได้ครั้งละ 100 บาท ไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ส่วนการเบิกจ่ายค่ายาแผนไทย ตามรายการยาในบัญชียาหลัก 19 รายการ กรมฯ กำลังจัดทำมาตรฐานหลักปฏิบัติ เพื่อขยายให้มียาแผนไทยเพิ่มเป็น 40 รายการ ส่วนการเบิกจ่ายยาสมุนไพรตาม 19 รายการ กรมฯ กำลังขยายให้มีรายการยาเพิ่มเป็น 40 รายการ ภายใน 2 ปี เพื่อลดปัญหาการใช้จ่ายงบประมาณการรักษาไปกับยานำเข้าจากต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา แต่ละโรงพยาบาลในสังกัด สธ. มีอัตราส่วนการใช้ยาแผนไทยร้อยละ 1.5 โดยกรมฯ จะเร่งให้โรงพยาบาลต่าง ๆ จัดทำบัญชียาสมุนไพรให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเข้าคณะกรรมการยาแห่งชาติ ในเดือนมกราคม 2553 เพื่อเพิ่มรายการยาสมุนไพรให้เข้าในบัญชียาหลักให้มากขึ้น จากเดิม 19 รายการ เป็น 40 รายการ ปัจจุบันมีอัตราส่วนการใช้ในบัญชียาหลักกับนอกบัญชายาหลัก 30 ต่อ 70
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/
วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552
7 เรื่องน่ารู้ ... หลีกหนีมะเร็งตับ
วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11489 มติชนรายวัน 7 เรื่องน่ารู้ ... หลีกหนีมะเร็งตับ เชื่อ หรือไม่ !! คนไทยป่วยตายด้วยโรคมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดีมากที่สุดในโลก ทำให้โรคมะเร็งคงครองแชมป์สาเหตุการเสียชีวิตของประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ มาแรงถึงขั้นแซงสาเหตุใหญ่ๆ อย่างอุบัติเหตุ และโรคหัวใจกันเลยทีเดียว ยิ่งฟังแบบนี้ก็ยิ่งทำใครหลายๆ คนต้องขนลุกขนพองไปตามๆ กัน แต่ถึงแม้ว่าโรคมะเร็งซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรคที่คนกลัวกันมากที่สุด ด้วยกิตติศัพท์เรื่องลือไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด รักษาหายยาก เนื่องจากผู้ป่วยส่วนมากกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งก็เข้าขั้นเกือบสุดท้ายซะ แล้วแถมเสียชีวิตอย่างรวดเร็วอีกต่างหาก รู้ทั้งรู้ขนาดนี้ แต่ทำไม้...ทำไม...อัตราการป่วยก็ไม่ได้มีแนวโน้มที่จะลดลงเลย หากแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ถึงเวลาแล้วหรือยัง...ที่เราต้องหันมาดูแลรักษาสุขภาพให้ห่างไกลพฤติกรรม กระตุ้นสารก่อมะเร็งหลีกหนีโรคร้ายที่ว่านี้ดีกว่ามั้ย ?? จริงๆ แล้วหากจะพูดถึงโรคมะเร็งตับก็ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด หลายๆ คนอาจจะเคยคุ้นหูกับคำรณรงค์ที่ว่า "กินสุกๆ ดิบๆ พยาธิใบไม้ตับถามหา" จากกระทรวงสาธารณสุขที่รณรงค์อย่างต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี แต่คำคุ้นหูที่ว่าไม่ได้ส่งผลให้อัตราการป่วยและตายด้วยโรคมะเร็งตับใน ปัจจุบันลดลงตามเป้าที่ตั้งไว้เท่าที่ควรจะเป็น เพราะประชาชนคนไทยยังไม่ปรับเปลี่ยนทัศนคติ ความเชื่อผิดๆ รวมถึงพฤติกรรมการกินที่ผิดสุขลักษณะอันเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคร้ายดัง กล่าว แต่ก่อนที่จะไปเรียนรู้วิธีป้องกัน เรามาทำความรู้จักกับโรคมะเร็งตับแบบจริงจังอีกครั้งดีกว่า โรค มะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งตับชนิดเซลล์ตับ ซึ่งพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ซึ่งเกิดจากไวรัสตับอักเสบบี ซี และสารอัลฟาท็อกซินในเชื้อราบางชนิดที่ขึ้นบนถั่วลิสง ข้าวโพด พริกแห้ง หัวหอม กระเทียม เป็นต้น และมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดี คือ มะเร็งที่เกิดจากเซลล์ที่บุภายในท่อน้ำดีส่วนที่อยู่ภายในตับ เกิดจากพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งเป็นพยาธิที่มีอยู่ในปลาน้ำจืดตามหนองบึง เช่น ปลาแม่สะแด้ง ปลาตะเพียนทราย ปลาสร้อยนกเขา ปลาสูตร ปลากะมัง ฯลฯ ซึ่งพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่พบในอาหารพวก โปรตีนหมัก เช่น ปลาร้า ปลาส้ม หมูส้ม แหนม ฯลฯ และอาหารพวกเนื้อสัตว์ที่ผสมดินประสิว เช่น กุนเชียง ไส้กรอก เนื้อเค็ม ปลาเค็ม เป็นต้น ทั้งนี้ หากอยากที่จะมีชีวิตที่ยืนยาว ห่างไกลโรคมะเร็งตับ ทำได้ง่ายๆ เพียงจดจำบัญญัติ 7 ประการและนำไปปฏิบัติ เพียงแค่นี้รับรองว่า มะเร็งร้ายไม่แวะมาเยี่ยมเยือนอย่างแน่นอน .. บัญญัติที่ 1 ป้องกันและรักษาโรคพยาธิใบไม้ตับ เลิกกินปลาน้ำจืดมีเกล็ดแบบสุกๆ ดิบๆ โดยเด็ดขาด หากท่านยังเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบรับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ประเภทปลาร้า ปลาจ่อมรสแซ่บ แหนม ฯลฯ โปรดรู้ไว้ว่าคุณได้นำพยาธิใบไม้ตับและสารไนโตรซามีนซึ่งสารก่อมะเร็งตับ ชนิดร้ายแรงเข้าสู่ร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายๆ คนอาจจะคิดว่าไม่เห็นเป็นไรเลย ทานสุกๆ ดิบๆ แล้วก็ทานยาถ่ายพยาธิตามไปสิ เดี๋ยวร่างกายก็จะถ่ายพยาธิใบไม้ตับออกมาเอง ความเชื่อที่ว่าผิดอย่างมหันต์ เพราะพยาธิเมื่อเข้าไปในร่างกายเราแล้วมันจะกัดทำลายทำให้ท่อน้ำดีอักเสบ ตรงกันข้ามผลการวิจัยพบว่าคนที่ใช้ยาถ่ายพยาธิบ่อยครั้งในขณะที่ยังไม่หยุด กินปลาดิบกลับเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากขึ้น เพราะฉะนั้นถึงจะทานยาถ่ายพยาธิเข้าไป ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณปลอดภัยจากโรคมะเร็งตับ บัญญัติที่ 2 หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง ได้แก่ อาหารที่มีราขึ้น อาหารใส่ดินประสิว และไนไตรซามีน เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก เบคอน รวมถึงอาหารประเภทหมักดอง เค็มจัด เผ็ดจัด บัญญัติที่ 3 รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ เรื่องอาหารการกินปฏิเสธไม่ได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับวิถีการดำรงชีวิตของ มนุษย์เป็นอย่างมาก แต่ในบางครั้งเราอาจจะมีคำถามผุดขึ้นมาในใจว่า เราเลือกรับประทานได้อย่างถูกต้องแล้วหรือยัง? ดังนั้น การรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ จึงเป็นเรื่องสำคัญ เคล็ดลับง่ายๆ เริ่มปฏิบัติด้วยการรับประทานอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ ในปริมาณที่ครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย รวมถึงการรับประทานผัก ผลไม้สด เป็นประจำ ในแต่ละวันร่างกายคนเราควรรับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้ซึ่งอุดมไปด้วย สารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายนานาชนิดเพื่อร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ โดยทางการแพทย์แนะนำว่าควรบริโภคผักและผลไม้ในปริมาณ 400 กรัมต่อวัน อันจะนำไปสู่การมีภาวะโภชนาการที่ดีต่อไป บัญญัติที่ 4 ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตเพื่อพฤติกรรมสุขภาพดี ดั่งคำเปรียบเปรย "สุขภาพดีนั่นคือลาภอันประเสริฐ" ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่กินอยู่นอนหลับอย่างพอดี เพื่อสร้างความสมดุลให้กับร่างกาย พร้อมทั้งการดำเนินชีวิตด้วยทางสายกลางตามหลักพระพุทธศาสนา ก็เป็นแนวหนึ่งที่จะทำให้สุขภาพดีแบบพอเพียงได้เช่นกัน บัญญัติที่ 5 เลิกดื่มสุราและงดสูบบุหรี่ บุหรี่มีโทษอนันต์เพราะมีสารก่อมะเร็งมากถึง 43 ชนิด บัญญัติ ที่ 6 ลดความเครียด และออกกำลังกายเป็นประจำ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าวิถีชีวิตมนุษย์ในปัจจุบันเต็มไปด้วยเรื่องราวชวนปวดสมอง อันเป็นสารก่อมะเร็งอีกชนิดหนึ่งที่จะคอยกัดกินสุขภาพไปทีละเล็กทีละน้อย อย่างไม่รู้ตัว ดังนั้น การออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันเพียงวันละแค่ 15-30 นาที นอกจากสุขภาพกายจะแข็งแรงดีแล้ว สุขภาพใจก็จะดีตามไปด้วยอย่างแน่นอน บัญญัติ ที่ 7 บัญญัติสุดท้าย การขับถ่ายในส้วมที่ถูกสุขลักษณะจะสามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง ตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดีได้ เพราะหากขับถ่ายผิดที่ผิด อาทิ ขับถ่ายของเสียในแม่น้ำลำคลอง ไข่ของพยาธิใบไม้ตับที่ไหลผ่านท่อน้ำดีเข้าสู่ลำไส้จะออกมาปะปนกับอุจจาระ ของคน สุนัขและแมว สามารถแพร่กระจายเชื้อต่อไปได้ง่าย อย่าให้ความ สูญเสียต้องเกิดขึ้นเมื่อสายเกินไป หากเริ่มปฏิบัติตนตามบัญญัติทั้ง 7 ประการข้างต้นตั้งแต่วันนี้ คุณจะสามารถโบกมือบอกลาโรคมะเร็งตับได้อย่างถาวร ทั้งนี้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคและวิธีการป้องกัน โรคมะเร็งตับ ทั้งจากชนิดเซลล์ตับและชนิดเซลล์ท่อน้ำดี ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากโครงการ "เรียนรู้เท่าทัน ป้องกันมะเร็งตับ" โครงการ ดีๆ ที่จะเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งตับ รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลิก พฤติกรรมการรับประทานปลาน้ำจืดมีเกล็ดแบบสุกๆ ดิบๆ กระตุ้นคนไทยตระหนักถึงภัยมะเร็งตับพร้อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ไทยอย่างแท้จริง หรือมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ โทรศัพท์ 0-2354-7025 หรือ 0-2354-7028-35 เยี่ยมชมเว็บไซต์ www.nci.go.th หน้า 26 |
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.baanjomyut.com/library/lotus
http://www.educationatclick.com
http://www.pwdom.com
http://weblogcamp2009.blogspot.com/2009
http://www.twitter.com/kajorn
http://www.twitter.com/BKKFlashCamp
http://camp02.readyhomepage.com
http://www.twitter.com/sun1951
http://www.twitter.com/joomlacorner
http://sun1951.vaivaitraining.com
http://sun1951.wordpress.com
http://www.educationatclick.com/th/
วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552
มหัศจรรย์สมุนไพรไทย "ต้านโรค"
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
| ||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||
https://www.myfirstbrain.com/Knowledge_View.aspx?Id=70104 -- ขอเชิญอ่าน blog.Thanks for visiting! http://www.parent-youth.net http://ilaw.or.th http://ww2.oja.go.th/home http://www.thaihof.org http://thainetizen.org http://www.ictforall.org http://www.projectlib.in.th http://elibrary.nfe.go.th http://www.nstda.or.th/th http://www.arda.or.th http://www.nppdo.go.th http://www.tlcthai.com http://dbd-52.hi5.com http://www.oknation.net/blog/assistance http://weblogcamp2009.blogspot.com/ |
"กาฬโรคปอด" โรคร้ายที่ควรรู้
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
| ||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||
https://www.myfirstbrain.com/Knowledge_View.aspx?Id=71350&Browsesub2s=1740 -- ขอเชิญอ่าน blog.Thanks for visiting! http://www.parent-youth.net http://ilaw.or.th http://ww2.oja.go.th/home http://www.thaihof.org http://thainetizen.org http://www.ictforall.org http://www.projectlib.in.th http://elibrary.nfe.go.th http://www.nstda.or.th/th http://www.arda.or.th http://www.nppdo.go.th http://www.tlcthai.com http://dbd-52.hi5.com http://www.oknation.net/blog/assistance http://weblogcamp2009.blogspot.com/ |
วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552
Ten foods for longevity
Please visit blog.Thanks for visiting! http://www.parent-youth.net http://www.thaihof.org http://www.tzuchithailand.org http://www.presscouncil.or.th http://elibrary.nfe.go.th http://ilaw.or.th http://thainetizen.org http://www.ictforall.org http://icann-ncuc.ning.com http://dbd-52.hi5.com http://www.industry4u.com http://logistics.dpim.go.th http://weblogcamp2009.blogspot.com http://www.educationatclick.com/th/ --- On Tue, 8/18/09, churdchoo ariyasriwatana <churdchoo@gmail.com> wrote:
|
วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2552
"โจ๊ก - ซุปกึ่งสำเร็จรูป"ความอร่อยที่หาได้ง่ายๆ เสียเวลานิดเดียว แต่ใครจะรู้ว่าแฝงไว้ด้วย"อันตราย"
"โจ๊ก - ซุปกึ่งสำเร็จรูป"ความอร่อยที่หาได้ง่ายๆ เสียเวลานิดเดียว แต่ใครจะรู้ว่าแฝงไว้ด้วย"อันตราย"
ด้วยชีวิตของคนสมัยใหม่ที่ต้องเร่งรีบ ทำให้บรรดา"อาหารกึ่งสำเร็จรูป"ทั้งหลาย หันมาทำการตลาดอย่างคึกคัก เพื่อสนองความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่ โจ๊ก ข้าวต้มและซุป ที่หาซื้อได้ง่ายและทานง่าย เราเคยสงสัยหรือไม่ว่าอาหารพวกนี้มีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง???
ผลิตภัณฑ์ที่เกริ่นนำไว้ในเบื้องต้นทั้งหลาย มีส่วนประกอบหลัก คือ "แป้ง" หรือคาร์โบไฮเดรต และอาจมีสารอาหารประเภทอื่นๆ บ้าง เช่น โปรตีน วิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดผสมอยู่เล็กน้อย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้องมีปริมาณโปรตีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8.5 ของน้ำหนัก ส่วนโจ๊กและข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป อย.กำหนดปริมาณโปรตีนไว้ที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8 ของน้ำหนัก ทั้งนี้ โปรตีนส่วนใหญ่ในอาหารประเภทนี้จะมีอยู่ในเนื้อสัตว์อบแห้ง โปรตีนถั่วเหลืองและโปรตีนจากข้าว อย่างไรก็ตาม จัดว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณต่อการบริโภค
ขณะที่ส่วนประกอบที่พบมากคือ เกลือ หรือโซเดียม ที่มีอยู่ในรูปของผงชูรสและในผงปรุงรส ซึ่งมีส่วนทำให้มีรสชาติอร่อย ดังนั้น เราอย่ามัวแต่เพลิดเพลินอยู่กับรสชาติเหล่านั้น เพราะอันตรายอาจจะถามหา โดยเฉพาะเจ้าโซเดียมตัวดีนี่แหละ
"โซเดียม" เยอะพอๆ กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
จากการทดสอบปริมาณโซเดียมในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เราพบปริมาณสูงมากกว่าร้อยละ 50 - 100 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน เมื่อเราลองทดสอบหาโซเดียมในอาหารกึ่งสำเร็จรูปชนิดอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าจะมีความนิยมไม่มากเท่าบะหมี่ แต่ก็มีแนวโน้มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะโจ๊พและข้าวต้ม ขณะที่ซุปกึ่งสำเร็จรูปแม้ยังจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ในอนาคตข้างหน้าก็มีแนวโน้มที่ตลาดจะขยายตัวมากขึ้น
กระบวนการผลิต
- โจ๊กและข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้าวสารบด ที่ผ่านกรรมวิธีทำความสะอาดและอบเพื่อลดความชื้น พร้อมกับทำลายเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด ส่วนใหญ่นิยมเติมส่วนผสมจากธรรมชาติชนิดอื่นๆ ลงไปด้วย เช่น แป้งถั่วเหลือง ฟักทอง แครอท สาหร่าย เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหารและเป็นจุดขาย นอกจากนี้ ยังเติมเครื่องปรุงรสและเนื้อสัตว์อบแห้ง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการปรุงและเพิ่มรสชาติ
- ข้าวตุ๋น คือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากข้าวสารบดแบบเดียวกับโจ๊กและข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป เพียงแต่ไม่มีการปรุงแต่งรสหรือใส่เครื่องปรุงรสเพิ่มเติม
- ซุปกึ่งสำเร็จรูป คือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเนื้อสัตว์หรือพืช เช่น ผัก ถั่ว เต้าหู้ ธัญพืช ผสมเข้ากับเครื่องปรุงรส หรืออาจเติมด้วยส่วนประกอบอื่นๆ เช่น แป้ง เส้นบะหมี่ แล้วนำมาผ่านกรรมวิธีทำให้แห้ง หรือใช้ส่วนประกอบที่ทำให้แห้งอยู่แล้วมาผสมกัน โดยยังคงรักษาคุณภาพและกลิ่นรสเอาไว้
ผลทดสอบปริมาณโซเดียม
- โจ๊กและข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป
1.คนอร์ โจ๊กต้มรสหมู : พบโซเดียม 1949 มก./น้ำหนัก 7 ก.
2.มาม่า ข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป รสหมู : พบโซเดียม 1569 มก./50 ก.
3.มาม่า โจ๊กต้มกึ่งสำเร็จรูป รสหมู : พบโซเดียม 1364 มก./50 ก.
4.เกษตร โจ๊กรสหมู : พบโซเดียม 1132.6 มก./42 ก.
จากการทดสอบพบว่า ปริมาณโซเดียมต่อจำนวนการเสิร์ฟ 1 ครั้ง มากที่สุดตามลำดับ ดังนี้ 1.เกษตร โจ๊กรสหมู 2.มาม่า ข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูป รสหมู 3.คนอร์ โจ๊กต้มรสหมู และ 4.มาม่า โจ๊กต้มกึ่งสำเร็จรูป รสหมู
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ "ลูกเต๋า ข้าว 7 นาที" และ "ลูกเต๋า ข้าวตุ๋นผสมฟังทอง" ตรวจสอบพบโซเดียมในปริมาณน้อย ถือเป็นทางเลือกที่ดีสหรับผู้ที่อยากบริโภคและปรุงรสด้วยตนเอง เพื่อควบคุมไม่ให้มีปริมาณโซเดียมสูงมากเกินไป ส่วน "ลูกเต๋า โจ๊ะข้าวกล้องหอมมะลิ" ก็ทดสอบพบปริมาณโซเดียมในระดับที่ค่อนข้างน้อยเช่นกัน เพราะแม้ว่าจะใช้ชื่อว่าโจ๊ก แต่เชื่อว่าใช้กรรมวิธีแบบเดียวกับข้าวตุ๋น คือ ไม่มีการผสมเครื่องปรุงรสใดๆ และผงชูรส
- ซุปกึ่งสำเร็จรูป
ในกลุ่มของซุปกึ่งสำเร็จรูปทั้ง 3 ยี่ห้อ คือ
แคมเบล์ ซุปข้าวโพดกึ่งสำเร็จรูป เป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ข้อมูลทั้งหมดบนกล่องเป็นภาษาอังกฤษ ยกเว้นเพียงส่วนประกอบสำคัญ ที่ระบุว่าไว้ว่าประกอบด้วย ข้าวโพด 20% ครีม 25% และน้ำตาล 10% นอกจากนี้ ยังมีการระบุผู้ผลิตและผู้นำเข้า น้ำหนักสุทธิ และเครื่องหมายรับรองของ อย.
ข้อสังเกต
1.แม้โจ๊กและข้าวต้มกึ่งสำเร็จรูปทุกยี่ห้อ ที่นำมาทดสอบจะระบุว่า ควรเติมเนื้อสัตว์ ไข่หรือผัก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกจัดวางอยู่ในบริเวณที่มองเห็นได้ยากและมีขนาดเล็ก เช่น มาม่า โจ๊กกึ่งสำเร็จรูปรสหมู และมาม่า ข้ามต้มกึ่งสำเร็จรูปรสหมู ที่ตัวอักษรข้อความมีขนาดเล็กและกลืนไปกับสีพื้นหลังของซอง ซึ่งยากต่อการสังเกต
2.ลูกเต๋า โจ๊กข้ามกล้องหอมมะลิ มีปริมาณโปรตีนที่ไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่ อย.กำหนด โดยพิจารณาจากข้อมูลด้านโภชนาการที่ให้ไว้บนซองผลิตภัณฑ์ คือ "ลูกเต๋า โจ๊กข้าวกล้องหอมมะลิ" โปรตีน 3 ก./น้ำหนัก 40 ก. ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 7.5
*****************
ที่มา นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับที่ 101 เขียนโดย กองบรรณาธิการ
(ติดต่อ "ฉลาดซื้อ" ได้ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 4/2 ซ.วัฒนโยธิน แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-2248-3734-7 โทรสาร 0-2248-3733 อีเมล webmaster@consumerthai.org)
--
ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.parent-youth.net
http://itceoclub.ning.com
http://www.presscouncil.or.th
http://ilaw.or.th
http://www.thaihof.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.logex.kmutt.ac.th
http://www.thaisara.com
http://www.rmutr.ac.th
http://icann-ncuc.ning.com
http://www.webmaster.or.th
http://weblogcamp2009.blogspot.com
http://pwdhutch3.blogspot.com
http://energygreenhealth.com
วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552
[ThaiEMP] Slides งาน Core lecture 1/2552 8-9 สิงหาคม 2552
Please visit blog.Thanks for visiting! http://www.sanamluang.bloggang.com http://tham-manamai.blogspot.com http://www.parent-youth.net http://www.thaihof.org http://www.tzuchithailand.org http://www.presscouncil.or.th http://elibrary.nfe.go.th http://ilaw.or.th http://thainetizen.org http://www.ictforall.org http://icann-ncuc.ning.com http://dbd-52.hi5.com http://www.industry4u.com http://logistics.dpim.go.th http://weblogcamp2009.blogspot.com --- On Thu, 8/13/09, Surajit Suntorntham <surajitsun@gmail.com> wrote:
|
e-Digest+ August 2009 - Thalassemia, Bone Marrow Transplantation, Hematopoietic Stem Cell Transplantation
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
From: edigest@bangkokhospital.com
To:
Subject: e-Digest+ August 2009 - Thalassemia, Bone Marrow Transplantation, Hematopoietic Stem Cell Transplantation
Date: Mon, 10 Aug 2009 22:50:29 -0400
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลนี้สงวนสิทธิ์การเผยแพร่เฉพาะสมาชิก e-digest+ ของศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพเท่านั้น | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
This e-mail was sent to: churchan@hotmail.com.
You have received this email because you subscribed with Bangkok Hospital and agreed to receive e-mail.
If you received this message in error or wish to be removed from this mailing list please click on or copy the unsubscribe link below.
SureStopTM Unsubscribe
ปาร์ตี้ไปกับ Buddy! เติมประกายให้ Messenger ของคุณด้วย emoticons ฟรีๆ คลิกที่นี่เลย